๑.๑.๒ เด็กและเยาวชนไม่เสพยาเสพติด ผู้เสพผู้ติดเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพที่มีมาตรฐานแ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :60.00 ผลงาน :0.00 |
ดำเนินการรวบรวมแบบสำรวจข้อมูลมลพิษอากาศจากการประกอบกิจการโรงแรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (หม้อไอน้ำ) โรงแรมส่งแบบสำรวจ มา 309 แห่ง พบว่า มีหม้อไอน้ำ 52 แห่งและมี Cooling Tower 76 แห่ง - ลงพื้นที่สำรวจและศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของการจัดการหม้อไอน้ำและระบบการการป้องกันเชื้อ Legionella ในสถานประกอบกิจการโรงแรม
เนื่องจากสถานการณ์โควิด ดำเนินการยกเลิกกิจกรรม การสัมมนาฯ และคืนเงิน งบประมาณ ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม (ไม่ครบมื้อ) เป็นเงิน 306,000 บาท ค่าวิทยากร 39,900 บาท และค่าจัดทำเอกสารประกอบการสัมมนา 50,000 บาท จัดทำแบบประเมินมลพิษอากาศจากหม้อไอน้ำกิจการโรงแรม
เนื่องจากสถานการณ์โควิด ระลอก3 จึงดำเนินการยกเลิกกิจกรรมสุ่มตรวจการประเมินหม้อไอน้ำกิจการโรงแรม จำนวน 100 ราย คืนเงิน จำนวน 39,900 บาท
จัดทำรายงานสรุปการดำเนินกิจกรรมเพื่อเสนอต่อผู้บริหารทราบ ผลการสำรวจกิจการโรงแรมที่มีการติดตั้งหม้อไอน้ำ (Boiler) จำนวน 54 แห่ง (297แห่งที่เข้าร่วมโครงการ) โดยหม้อไอน้ำมีการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NG) 44.07% LPG 5.08% น้ำมันเตา 15.25% และอื่นๆ 35.60%
๑.๑.๒ เด็กและเยาวชนไม่เสพยาเสพติด ผู้เสพผู้ติดเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพที่มีมาตรฐานแ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :60.00 ผลงาน :0.00 |
ดำเนินการรวบรวมแบบสำรวจข้อมูลมลพิษอากาศจากการประกอบกิจการโรงแรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (หม้อไอน้ำ) โรงแรมส่งแบบสำรวจ มา 309 แห่ง พบว่า มีหม้อไอน้ำ 52 แห่งและมี Cooling Tower 76 แห่ง - ลงพื้นที่สำรวจและศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของการจัดการหม้อไอน้ำและระบบการการป้องกันเชื้อ Legionella ในสถานประกอบกิจการโรงแรม
เนื่องจากสถานการณ์โควิด ดำเนินการยกเลิกกิจกรรม การสัมมนาฯ และคืนเงิน งบประมาณ ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม (ไม่ครบมื้อ) เป็นเงิน 306,000 บาท ค่าวิทยากร 39,900 บาท และค่าจัดทำเอกสารประกอบการสัมมนา 50,000 บาท จัดทำแบบประเมินมลพิษอากาศจากหม้อไอน้ำกิจการโรงแรม
เนื่องจากสถานการณ์โควิด ระลอก3 จึงดำเนินการยกเลิกกิจกรรมสุ่มตรวจการประเมินหม้อไอน้ำกิจการโรงแรม จำนวน 100 ราย คืนเงิน จำนวน 39,900 บาท
จัดทำรายงานสรุปการดำเนินกิจกรรมเพื่อเสนอต่อผู้บริหารทราบ ผลการสำรวจกิจการโรงแรมที่มีการติดตั้งหม้อไอน้ำ (Boiler) จำนวน 54 แห่ง (297แห่งที่เข้าร่วมโครงการ) โดยหม้อไอน้ำมีการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NG) 44.07% LPG 5.08% น้ำมันเตา 15.25% และอื่นๆ 35.60%
๑.๑.๓ ระบบขนส่งมวลชนปลอดอุบัติเหตุ (ราง รถ เรือ BRT รถเมล์) | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :85.00 ผลงาน :100.00 |
1. รับเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของสำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 เรื่อง 2. มอบหมายงานตามลำดับ 3. ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและประสานนัดหมายผู้เกี่ยวข้องก่อนลงพื้นที่แล้ว จำนวน 1 เรื่อง 4. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียนและตรวจวัดด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์แล้ว จำนวน 1 เรื่อง 5. วิเคราะห์ผล เปรียบเทียบผลตามข้อกฎหมาย สรุปผลและจัดทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับแล้ว จำนวน 1 เรื่อง 6. เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผลแล้ว จำนวน 1 เรื่อง - วิธีการคำนวณ เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผล 1 เรื่อง X 100 หารด้วยเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบฯ 2 เรื่อง (1 เรื่อง X 100 / 2 เรื่อง = 50 %)
1. รับเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของสำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม จำนวน 4 เรื่อง 2. มอบหมายงานตามลำดับ 3. ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและประสานนัดหมายผู้เกี่ยวข้องก่อนลงพื้นที่แล้ว จำนวน 3 เรื่อง 4. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียนและตรวจวัดด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์แล้ว จำนวน 3 เรื่อง 5. วิเคราะห์ผล เปรียบเทียบผลตามข้อกฎหมาย สรุปผลและจัดทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับแล้ว จำนวน 2 เรื่อง 6. เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผลแล้ว จำนวน 2 เรื่อง - วิธีการคำนวณ เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผล 2 เรื่อง X 100 หารด้วยเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบฯ 4 เรื่อง (2 เรื่อง X 100 / 4 เรื่อง = 50 %)
1. รับเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของสำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม จำนวน 5 เรื่อง 2. มอบหมายงานตามลำดับ 3. ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและประสานนัดหมายผู้เกี่ยวข้องก่อนลงพื้นที่แล้ว จำนวน 5 เรื่อง 4. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียน จำนวน 5 เรื่อง 5. วิเคราะห์ผล เปรียบเทียบผลตามข้อกฎหมาย สรุปผลและจัดทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับแล้ว จำนวน 5 เรื่อง 6. เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผลแล้ว จำนวน 5 เรื่อง - วิธีการคำนวณ เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผล 5 เรื่อง X 100 หารด้วยเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบฯ 5 เรื่อง (5 เรื่อง X 100 / 5 เรื่อง = 100 %)
1. รับเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของสำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม จำนวน 5 เรื่อง 2. มอบหมายงานตามลำดับ 3. ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและประสานนัดหมายผู้เกี่ยวข้องก่อนลงพื้นที่แล้ว จำนวน 5 เรื่อง 4. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียน จำนวน 5 เรื่อง 5. สรุปผลและจัดทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับแล้ว จำนวน 5 เรื่อง 6. เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผลให้สำนักงานเขตทราบแล้ว จำนวน 5 เรื่อง - วิธีการคำนวณ เรื่องร้องเรียนได้รับการตรวจสอบและรายงานผล 5 เรื่อง X 100 หารด้วยเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ระบบฯ 5 เรื่อง (5 เรื่อง X 100 / 5 เรื่อง = 100 %)
๑.๒.๒ เด็กและเยาวชนไม่เสพยาเสพติด ผู้เสพติดทุกคนเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูที่มีมา | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :65.00 ผลงาน :82.90 |
อยู่ระหว่างประมวลผลข้อมูลในระบบ NISPA
จำนวนชุมชนจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2564 ทั้งหมด 2,012 ชุมชน มีชุมชนที่มีการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 6 ใน 10 ข้อ ตามเกณฑ์การประเมินของกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,540 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 76.54 (ข้อมูลจากการประเมินฯ ปีการประเมิน พ.ศ. 2564 ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2564)
จำนวนชุมชนจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2564 จำนวน 2,012 ชุมชน ชุมชนที่มีการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 6 ใน 10 ข้อ ตามเกณฑ์การประเมินของกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,540 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 76.54 (ข้อมูลจากการประเมินฯ ปีการประเมิน พ.ศ.2564 ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2564) ซึ่งอยู่ระหว่างประมวลข้อมูลในระบบ NISPA (ครั้งที่ 2 เมษายน - สิงหาคม 2564)
จำนวนชุมชนจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2564 จำนวน 2,012 ชุมชน ชุมชนที่มีการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 6 ใน 10 ข้อ ตามเกณฑ์การประเมินของกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,668 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 82.90 (ข้อมูลจากการประเมินฯ ปีการประเมิน พ.ศ.2564 ครั้งที่ 2 เมษายน - กันยายน 2564)
๑.๒.๑ ระบบขนส่งมวลชนปลอดอุบัติเหตุ (ราง รถ เรือ BRT รถเมล์) | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :65.00 ผลงาน :82.90 |
อยู่ระหว่างประมวลผลข้อมูลในระบบ NISPA
จำนวนชุมชนจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2564 ทั้งหมด 2,012 ชุมชน มีชุมชนที่มีการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 6 ใน 10 ข้อ ตามเกณฑ์การประเมินของกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,540 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 76.54 (ข้อมูลจากการประเมินฯ ปีการประเมิน พ.ศ. 2564 ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2564)
จำนวนชุมชนจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2564 จำนวน 2,012 ชุมชน ชุมชนที่มีการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 6 ใน 10 ข้อ ตามเกณฑ์การประเมินของกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,540 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 76.54 (ข้อมูลจากการประเมินฯ ปีการประเมิน พ.ศ.2564 ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2564) ซึ่งอยู่ระหว่างประมวลข้อมูลในระบบ NISPA (ครั้งที่ 2 เมษายน - สิงหาคม 2564)
จำนวนชุมชนจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2564 จำนวน 2,012 ชุมชน ชุมชนที่มีการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 6 ใน 10 ข้อ ตามเกณฑ์การประเมินของกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,668 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 82.90 (ข้อมูลจากการประเมินฯ ปีการประเมิน พ.ศ.2564 ครั้งที่ 2 เมษายน - กันยายน 2564)
๑.๒.๒ เด็กและเยาวชนไม่เสพยาเสพติด ผู้เสพติดทุกคนเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูที่มีมา | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :65.00 ผลงาน :78.20 |
- อยู่ระหว่างทำหนังสือประสานสำนักงานเขตสำรวจจำนวนอาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - อยู่ระหว่างรวบรวมผลการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร - อยู่ระหว่างจัดทำโครงการอาสาสมัครกรุงเทพมหานครในสถานศึกษา โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ จะร่วมเป็นอาสาสมัครดำเนินการจัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา
1. อาสาสมัครที่ร่วมดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประกอบด้วย อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครในสถานศึกษา 2. จำนวนของอาสาสมัครฯ รวม 9,579 คน มีการดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น การค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด การติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษา การแจ้งข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านยาเสพติด จำนวน 7,534 คน คิดเป็นร้อยละ 78.65 (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2564)
1. อาสาสมัครที่ร่วมดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประกอบด้วย อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครในสถานศึกษา 2. อาสาสมัครฯ ทั้งหมด จำนวน 13,419 คน ดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น การค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด การติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษา การแจ้งข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านยาเสพติด จำนวน 9,689 คน คิดเป็นร้อยละ 72.20 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
1. อาสาสมัครที่ร่วมดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประกอบด้วย อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครในสถานศึกษา 2. อาสาสมัครฯ ทั้งหมด จำนวน 13,419 คน ดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น การค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด การติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษา การแจ้งข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านยาเสพติด จำนวน 10,493 คน คิดเป็นร้อยละ 78.20 (ข้อมูล 1 ต.ค.2563 - 30 ก.ย. 2564)
๑.๒.๑ ระบบขนส่งมวลชนปลอดอุบัติเหตุ (ราง รถ เรือ BRT รถเมล์) | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :65.00 ผลงาน :78.20 |
- อยู่ระหว่างทำหนังสือประสานสำนักงานเขตสำรวจจำนวนอาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - อยู่ระหว่างรวบรวมผลการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร - อยู่ระหว่างจัดทำโครงการอาสาสมัครกรุงเทพมหานครในสถานศึกษา โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ จะร่วมเป็นอาสาสมัครดำเนินการจัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา
1. อาสาสมัครที่ร่วมดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประกอบด้วย อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครในสถานศึกษา 2. จำนวนของอาสาสมัครฯ รวม 9,579 คน มีการดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น การค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด การติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษา การแจ้งข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านยาเสพติด จำนวน 7,534 คน คิดเป็นร้อยละ 78.65 (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2564)
1. อาสาสมัครที่ร่วมดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประกอบด้วย อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครในสถานศึกษา 2. อาสาสมัครฯ ทั้งหมด จำนวน 13,419 คน ดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น การค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด การติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษา การแจ้งข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านยาเสพติด จำนวน 9,689 คน คิดเป็นร้อยละ 72.20 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
1. อาสาสมัครที่ร่วมดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประกอบด้วย อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครในสถานศึกษา 2. อาสาสมัครฯ ทั้งหมด จำนวน 13,419 คน ดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น การค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด การติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษา การแจ้งข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านยาเสพติด จำนวน 10,493 คน คิดเป็นร้อยละ 78.20 (ข้อมูล 1 ต.ค.2563 - 30 ก.ย. 2564)
๑.๒.๒ เด็กและเยาวชนไม่เสพยาเสพติด ผู้เสพติดทุกคนเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูที่มีมา | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :55.00 ผลงาน :55.20 |
อยู่ระหว่างประสานโรงเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติดสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
จำนวนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ปีทื่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติด จำนวน 10,000 คน มีผลอยู่ในระดับปกติ จำนวน 5,309 คน คิดเป็นร้อยละ 53.09 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มีนาคม 2564)
จำนวนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติด จำนวน 10,841 คน มีผลอยู่ในระดับปกติ 5,984 คน คิดเป็นร้อยละ 55.2 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
จำนวนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติด จำนวน 10,841 คน มีผลอยู่ในระดับปกติ 5,984 คน คิดเป็นร้อยละ 55.2 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
๑.๒.๑ ระบบขนส่งมวลชนปลอดอุบัติเหตุ (ราง รถ เรือ BRT รถเมล์) | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :55.00 ผลงาน :55.20 |
อยู่ระหว่างประสานโรงเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติดสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
จำนวนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ปีทื่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติด จำนวน 10,000 คน มีผลอยู่ในระดับปกติ จำนวน 5,309 คน คิดเป็นร้อยละ 53.09 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มีนาคม 2564)
จำนวนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติด จำนวน 10,841 คน มีผลอยู่ในระดับปกติ 5,984 คน คิดเป็นร้อยละ 55.2 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
จำนวนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติด จำนวน 10,841 คน มีผลอยู่ในระดับปกติ 5,984 คน คิดเป็นร้อยละ 55.2 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
๑.๒.๒ เด็กและเยาวชนไม่เสพยาเสพติด ผู้เสพติดทุกคนเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูที่มีมา | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :97.80 |
อยู่ระหว่างรวบรวมผลการดำเนินงานจากศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อนำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลในระบบ บสต.
จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่บำบัดครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและได้รับการติดตามพบตัว ทั้งหมด 88 คน ไม่เสพ จำนวน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 88.64 (ข้อมูลจากระบบ บสต. ณ วันที่ 12 มีนาคม 2564)
จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่บำบัดครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและได้รับการติดตามพบตัว ทั้งหมด 201 คน ไม่เสพ 198 คน คิดเป็นร้อยละ 98.50 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่บำบัดครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและได้รับการติดตามพบตัว ทั้งหมด 456 คน ไม่เสพ 446 คน คิดเป็นร้อยละ 97.80 (ข้อมูล ณ กันยายน 2564)
๑.๒.๑ ระบบขนส่งมวลชนปลอดอุบัติเหตุ (ราง รถ เรือ BRT รถเมล์) | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :97.80 |
อยู่ระหว่างรวบรวมผลการดำเนินงานจากศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อนำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลในระบบ บสต.
จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่บำบัดครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและได้รับการติดตามพบตัว ทั้งหมด 88 คน ไม่เสพ จำนวน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 88.64 (ข้อมูลจากระบบ บสต. ณ วันที่ 12 มีนาคม 2564)
จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่บำบัดครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและได้รับการติดตามพบตัว ทั้งหมด 201 คน ไม่เสพ 198 คน คิดเป็นร้อยละ 98.50 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564)
จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่บำบัดครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและได้รับการติดตามพบตัว ทั้งหมด 456 คน ไม่เสพ 446 คน คิดเป็นร้อยละ 97.80 (ข้อมูล ณ กันยายน 2564)
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :90.00 ผลงาน :92.63 |
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 1,617 คน คิดเป็นร้อยละ 4.90
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 16,564 คน คิดเป็นร้อยละ 50.20
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 21,027 คน คิดเป็นร้อยละ 63.7
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 30,568 คน คิดเป็นร้อยละ 92.63
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :97.00 ผลงาน :100.00 |
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 22 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 100
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 102 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 102 คน คิดเป็นร้อยละ 100
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 191 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 191 คน คิดเป็นร้อยละ 100
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 259 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 259 คน คิดเป็นร้อยละ 100
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :89.00 ผลงาน :90.27 |
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 1/2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 149 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 128 คน คิดเป็นร้อยละ 85.91
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 1-2/2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 337 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 300 คน คิดเป็นร้อยละ 89.02
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 1-3/2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 495 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 444 คน คิดเป็นร้อยละ 89.70
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 648 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 585 คน คิดเป็นร้อยละ 90.27
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ไม่เกินเปอร์เซ็นไทล์ที่ 80 ของข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :20.51 |
ดำเนินการสำรวจค่า CI HI ตามแผน
จำนวนผู้ป่วย x 100,000 / ประชากรปี 2563 661 x 100,000 / 5,588,222 = 11.83 ไม่เกินเปอร์เซนไทล์ที่ 80 ของ 5 ปีย้อนหลัง (<298.56)
จำนวนผู้ป่วย x 100,000 / ประชากรปี 2563 844 x 100,000 / 5,588,222 = 15.10 ไม่เกินเปอร์เซนไทล์ที่ 80 ของ 5 ปีย้อนหลัง (<298.56)
จำนวนผู้ป่วย x 100,000 / ประชากรปี 2563 1146 x 100,000 / 5,588,222 = 20.51 ไม่เกินเปอร์เซนไทล์ที่ 80 ของ 5 ปีย้อนหลัง (<298.56)
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
ดำเนินการรับแจ้งข่าวและลงสอบสวนโรค COVID-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
รายงานสอบสวนโรคดำเนินการเรียบร้อยแล้ว x 100 / ยอดทั้งหมดของรายงานสอบสวนโรค 845x100/1,065 = 79.34
ดำเนินการตามกระบวนการ ดังนี้- รับแจ้งข้อมูลผู้ป่วย ผู้สัมผัส - ติดตามข้อมูลผู้ป่วย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ - จัดทำฐานข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยผู้สัมผัส - จัดทำรายงานสถานการณ์ - ปฏิบัติการสอบสวนโรคในพื้นที่ - จัดทำรายงานสอบสวนโรค - ติดตามการสอบสวนโรคและรายงานสอบสวนโรคของศูนย์บริการสาธารณสุข กลุ่มผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ตามที่นำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.กทม. ได้รับการสอบสวนและควบคุมโรคเบื้องต้น จำนวน 220 Cluster
กลุ่มผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) 220 x 100/220 = 100
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :75.00 ผลงาน :62.55 |
วางแผนการดำเนินงาน
ประชุมวางแผนการดำเนินงาน
กระจายวัคซีนให้ศบส. และศบส.กำลังให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่กลุ่มเป้าหมาย
ให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเป้าหมาย และสรุปผลการดำเนินงาน วัคซีนที่ได้รับสนับสนุนฟรีจำนวน 85714 ขวด กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับวัคซีนจำนวน 53613 คน (53613×100÷85714=62.55)
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :94.12 |
วางแผนการดำเนินงาน
อยู่ระหว่างขออนุมัติยกเลิกโครงการ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ระลอกใหม่ยังพบผู้ป่วยสูงขึ้นเรื่อยๆ และตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม2564 พบการระบาดเป็นกลุ้มก้อนในพื้นที่เขตบางแค บางขุนเทียน เจ้าหน้าของกองควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุขของศูนย์บริการสาธารณสุขซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ต้องระดมสรรพกำลังในการควบคุมโรคโควิดไม่ให้ระบาดในวงกว่้าง ประกอบกับต้องระดมกำลังให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ทันเวลาตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขและเงื่อนเวลาดังกล่าว กองควบคุมโรคติดต่อพิจารณาว่า กลุ่มเป้าหมายไม่สามารถที่จะเข้าร่วมประชุมตามแผนปฏิบัติงานที่โครงการกำหนดจึงได้ทำหนังสือเรียนผู้อำนวยการสำนักอนามัย เพื่อขออนุมัติยกเลิกโครงการ หมายเหตุ โครงการนี้ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี
ยกเลิกโครงการที่สนับสนุนตัวชี้วัด แต่ได้นำกิจกรรมที่เป็นงานประจำคือประชุมเชิงปฏิบัติการการเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อในสถานศึกษามาทดแทน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประชุมเชิงปฏิบัติการการเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อในสถานศึกษาในวันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคระบบทางเดินหายใจในสถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และสถานรับเลี้ยงเด็กกลางวัน และเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจากกลุ่มเขตทั้ง 6 กลุ่ม พยาบาลศูนย์บริการสาธารณสุขจากทั้ง 6 กลุ่มเขต สำนักการศึกษา สำนักงานสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่กองควบคุมโรคติดต่อ กลุ่มเป้าหมายจำนวน 34 คน ผลการดำเนินงาน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้เรื่องโรคติดต่อที่สำคัญตามฤดูกาลตามเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 94.12 (จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 34 คน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้เรื่องโรคติดต่อที่สำคัญตามฤดูกาลตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 32 คน =32*100/34=94.12%)
๑.๕.๑๑ ประชาชนบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ราย เป้าหมาย :0.00 ผลงาน :0.00 |
6.1 จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า(ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 จำนวน 6,967 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน1,717 ตัว แมว จำนวน5,248 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 2 ตัว 6.2 ตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในตัวอย่างซากสุนัขและแมวที่ส่งตรวจลดลง 10% ของค่า Median 5 ปีย้อนหลัง(ผลลัพธ์) (ค่า Median 5 ปีย้อนหลัง 5 ปี = 32 case ดังนั้นการตรวจพบลดลง 10% = 3.2 case ฉะนั้นตามตัวชี้วัด ปีงบฯ 64 จึงตรวจพบได้ไม่เกิน 32-3.2 = 28.8 case ปัดเศษขึ้น) ผลการส่งตัวอย่างซากสุนัขและแมวตรวจทางห้องปฏิบัติการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ยังไม่พบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า 6.3 อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า...//
จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า(ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 จำนวน 55,544 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน 23,258 ตัว แมว จำนวน 31,956 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 230 ตัว อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า...//
จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 สามารถดำเนินการได้ จำนวนทั้งสิ้น 89,481 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน 39,184 ตัว แมวจำนวน 50,013 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 284 ตัว อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า...//
จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 สามารถดำเนินการได้ จำนวนทั้งสิ้น 101,201 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน 44,322 ตัว แมวจำนวน 56,594 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 285 ตัว อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า.../
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :70.00 ผลงาน :70.11 |
วิเคราะห์ข้อมูลการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการนักเรียน /จัดทำแผนการดำเนินงานกิจกรรมป้องกันโรคอ้วนและภาวะทุพโภชนาการในโรงเรียน
รวบรวมข้อมูลจากศูนย์บริการสาธารณสุข เด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัดได้รับการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการ จำนวน 252,328 คน มีภาวะโภชนาการสูงดีสมส่วน 161,074 คน คิดเป็นร้อยละ 63.84
รวบรวมข้อมูลการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงของนักเรียน เพื่อเฝ้าระวังภาวะโภชนาการโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด จากศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ภาคเรียนที่ 1/2563 พบว่าเด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด ได้รับการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการ คิดเป็นร้อยละ 100 เด็กนักเรียน จำนวน 395,859 คน มีภาวะโภชนาการสูงดีสมส่วน จำนวน 277,076 คน คิดเป็นร้อยละ 69.99 เเละอยู่ระหว่างขั้นตอนรวบรวมข้อมูลภาวะโภชนาการโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด จากศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ภาคเรียนที่ 2/2563 รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลรายงานผลการดำเนินงานมาตรการป้องกันโรคอ้วน เเละภาวะทุพโภชนาการในโรงเรียน
จัดทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ให้ดำเนินการจัดส่งแบบรายงานเฝ้าระวังภาวะโภชนาการ และแบบรายงานมาตรการป้องกันโรคอ้วนและภาวะทุพโภชนาการในโรงเรียน ภาคเรียนที่ 2/2563 รวบรวม ตรวจสอบ วิเคราะห์ และสรุปผลข้อมูลการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงของเด็กนักเรียน การเฝ้าระวังภาวะโภชนาการโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด จากศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ภาคเรียนที่ 2/2563 พบว่าเด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด จำนวนทั้งสิ้น 661 แห่ง ได้รับการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการ และเข้าร่วมดำเนินมาตรการป้องกันโรคอ้วนและภาวะทุพโภชนาการในโรงเรียน จำนวน 413,705 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด จำนวน 413,705 คน มีภาวะโภชนาการสูงดีสมส่วน จำนวน 290,031 คน คิดเป็นร้อยละ 70.11
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :90.00 ผลงาน :90.80 |
ดำเนินการขออนุมัติโครงการฯ /จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานให้กับหัวหน้าพยาบาลหรือแกนนำที่ผ่านการอบรมโครงวัยทำงานสดใส ใส่ใจสุขภาพ ทั้ง 69 แห่ง /จัดทำหนังสือชี้แจงการดำเนินงานโครงการวัยทำงานสดใส ใส่ใจสุขภาพและติดต่อประสานงานคณะกรรมการเพื่อเชิญเป็นคณะกรรมการตัดสิน /จัดทำร่างหลักเกณฑ์การประกวด
จัดทำร่างหลักเกณฑ์การประกวด /รวบรวมโครงการ กิจกรรมการดำเนินโครงการวัยทำงานสดใส ใส่ใจสุขภาพ และผลการชั่งน้ำหนักประจำเดือน จากศูนย์บริการสาธารณสุข
อยู่ระหว่างขั้นตอนรวบรวมผลการดำเนินงานโครงการวัยทำงานสดใส ใส่ใจสุขภาพ จากศูนย์บริการสาธารณสุข 1 - 69 พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 1,290 คน ที่มีภาวะเสี่ยง/่ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ค่าดัชนีมวลกายเกินหรือเส้นรอบเอวเกิน หลังเข้าร่วมโครงการฯ มีรอบเอวหรือค่า BMI ลดลงจากเดิม จำนวน 1,125 คน คิดเป็นร้อยละ 87.20
จัดทำหนังสือขออนุมัติถึงผู้อำนวยการสำนักอนามัย เรื่องขออนุมัติเลื่อนระยะเวลาการดำเนินโครงการวัยทำงานสดใส ใส่ใจสุขภาพ ปีงบประมาณ 2564 จากระยะเวลาสิ้นสุดเดือนกันยายน ออกไปเป็น30 ธันวาคม 2564/สรุปการติดตามรวบรวมข้อมูลและประเมินผลโครงการวัยทำงานสดใส ใส่ใจสุขภาพ ผู้เข้าร่วมโครงการฯจำนวน 2,641 คน ที่มีภาวะเสี่ยง/ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ค่าดัชนีมวลกายเกินหรือเส้นรอบเอวเกิน หลังเข้าร่วมโครงการฯมีรอบเอวหรือค่า BMI ลดลงจากเดิม จำนวน 2,398 คน คิดเป็นร้อยละ 90.80
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ครั้ง เป้าหมาย :24.00 ผลงาน :29.00 |
ครั้งที่ 1 : วันที่ 15 ต.ค. 2563 จัดประชุม “เวที KICK OFF ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต พื้นที่กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแมจิก 2 ชั้น 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 106 คน ครั้งที่ 2 : วันที่ 19 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2563” ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 3 : วันที่ 27 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ครั้งที่ 4/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 46 คน ครั้งที่ 4 : วันที่ 4 พ.ย. 2563 จัดประชุม “รับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสุขภาพกรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมราชเทวี โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 5 : วันที่ 6 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “รับฟังความคิดเห็นประเด็นหาบเร่” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 6 : วันที่ 13 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 7 : วันที่ 25 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 8 : วันที่ 26 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “เวทีสมัชชาสุขภาพ กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น B2 อาคาร ไอราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 200 คน ครั้งที่ 9 : วันที่ 14-15 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพและกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตในพื้นที่นำร่อง ๑๓ เขต กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแกรนด์ฮอล์ 2 โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 150 คน ครั้งที่ 10 : วันที่ 16-17 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุม ZOOM เวทีสมัชชาแห่งชาติ” ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 10 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน ครั้งที่ 11 : วันที่ 21 ธ.ค. 2563 จัดประชุม “เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน
ครั้งที่ 1 : วันที่ 15 ต.ค. 2563 จัดประชุม “เวที KICK OFF ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต พื้นที่กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแมจิก 2 ชั้น 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 106 คน ครั้งที่ 2 : วันที่ 19 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2563” ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 3 : วันที่ 27 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ครั้งที่ 4/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 46 คน ครั้งที่ 4 : วันที่ 4 พ.ย. 2563 จัดประชุม “รับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสุขภาพกรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมราชเทวี โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 5 : วันที่ 6 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “รับฟังความคิดเห็นประเด็นหาบเร่” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 6 : วันที่ 13 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 7 : วันที่ 25 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 8 : วันที่ 26 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “เวทีสมัชชาสุขภาพ กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น B2 อาคาร ไอราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 200 คน ครั้งที่ 9 : วันที่ 14-15 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพและกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตในพื้นที่นำร่อง ๑๓ เขต กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแกรนด์ฮอล์ 2 โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 150 คน ครั้งที่ 10 : วันที่ 16-17 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุม ZOOM เวทีสมัชชาแห่งชาติ” ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 10 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน ครั้งที่ 11 : วันที่ 21 ธ.ค. 2563 จัดประชุม “เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน ครั้งที่ 12 : วันที่ 20 ม.ค. 2564 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2564” ณ ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 13 : วันที่ 28 ม.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ครั้งที่ 1/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 46 คน ครั้งที่ 14 : วันที่ 17 ก.พ. 2564 “การประชุมพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตทวีวัฒนา” ณ สำนักงานเขตทวีวัฒนา โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และ ทีมวิชาการ คณาจารย์จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดยร่วมกันออกแบบกลไก และข้อมูล ในการสังเคราะห์ยกร่าง และวางปฏิทินการทำงานการพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ เพื่อขยายบทบาทและสร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนสุขภาวะ โดยผ่านกลไก คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับเขต (พชข.) ครั้งที่ 15 : วันที่ 17 ก.พ. 2564 “การประชุมแนวทางพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตบางบอน” ณ สำนักงานเขตบางบอนโดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขตบางบอน เป็นประธาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางบอน หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สภาองค์กรชุมชนเขตบางบอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนงานธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ ระดับเขต พื้นที่นำร่อง 13 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 16 : วันที่ 19 ก.พ. 2564 “การประชุมคณะทำงานธรรมนูญสุขภาพเขตสายไหม” ณ สำนักงานเขตสายไหม โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขตสายไหม หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนศูนย์บริการสาธารณสุข 61 สังวาลย์ ทัสนารมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และสภาองค์กรชุมชนเขตสายไหม เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาศักยภาพ กลไก คณะทำงานระดับเขตสู่ความเข้าใจร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลบริบทต้นทุนทางสังคมของเขตสายไหม ด้านประชากร ด้านสุขภาพ และข้อมูลชุมชน โดยจะส่งผ่านข้อมูลพื้นฐานชุมชนให้ทาง มรภ.พระนคร จัดทำกลุ่มประเด็นจากฐานข้อมูลเบื้องต้น ก่อนจะร่วมกันเติมเต็มข้อมูลและออกแบบเพื่อพัฒนาเครื่องมือการขับเคลื่อนประเด็นต่อไป ครั้งที่ 17 : วันที่ 24 ก.พ. 2564 “การประชุมคณะทำงานธรรมนูญสุขภาพเขตวังทองหลาง” ณ สำนักงานเขตวังทองหลาง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วย หัวหน้าฝ่าย พร้อมเจ้าหน้าเขตวังทองหลาง ผู้อำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานสภาองค์กรชุมชนเขตวังทองหลาง และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เพื่อวางระบบและแผนงานการจัดการข้อมูล วิเคราะห์ทุนทางสังคม กลไก บทบาทในพื้นที่ เพื่อจัดทำและขับเคลื่อนงานการมีส่วนร่วม และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชื่อมโยงกับ ทุนศักยภาพชุมชน สังเคราะห์ปัญหา และความต้องการชุมชน ครั้งที่ 18 : วันที่ 25 ก.พ. 2564 กองสร้างเสริมสุขภาพ ศูนย์บริการสาธารณสุข 62 ตวงรัชฎ์ ศศะนาวิน สำนักอนามัย สำนักงานเขตภาษีเจริญ สถานีกาชาดที่ 11 (วิเศษนิยม) สภากาชาดไทย เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ Migrant Working Group พระนิสิตจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่เพื่อมอบชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤตโควิด-19 และสื่อความรู้โควิด-19 ให้แก่ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงชาวเมียนมาที่ได้รับการกักกันตัวในสถานที่ควบคุมเป็นที่พักอาศัย (Home Quarantine) และแรงงานชาวเมียนมา ณ สถานประกอบการ ในพื้นที่เขตภาษีเจริญ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและพระนิสิตชาวเมียนมา ให้ความรู้ คำแนะนำและคำปรึกษา ทาง video call ในการป้องกันตนเองจากโควิด-19 รวมทั้งมอบแอลกอฮอล์เจล หน้ากากอนามัยแบบผ้า และสื่อความรู้ ครั้งที่ 19 : วันที่ 10 มี.ค. 2564 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ระเบียบวาระว่าด้วยเรื่อง การขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร หาบเร่แผงลอย และ ธรรมนูญสุขภาพกรุงเทพมหานคร และแนวทางการพัฒนานโยยายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ในพื้นที่ กทม. ครั้งที่ 20 : วันที่ 10 มี.ค. 2564 “การประชุมคณะอำนวยการพัฒนาสุขภาวะเขตพื้นที่ กทม.” ณ อาคารสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้ตรวจราชการ กทม. รอง ผอ.สำนักพัฒนาสังคม หัวหน้าฝ่าย สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล สำนักอนามัย ผู้แทน กขป. สปสช. ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์ทั้ง 5 แห่ง เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการพื้นที่นำร่อง 13 เขต และหารือทิศทางและกลยุทธ์การจัดเวทีเสริมพลังในระดับ มหานคร ครั้งที่ 21 : วันที่ 11 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตดอนเมือง” ณ สำนักงานเขตดอนเมือง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานเขตดอนเมือง โดยมี หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ เป็นประธาน พร้อม ประธานชุมชน เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข คณาจารย์ มรภ.สวนสุนันทา และ ดร.สัญชัย สูติพันธ์วิหาร (กขป.กทม) ได้ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลภูมิศาสตร์ ประเด็น รวมไปถึงการวิเคราะห์ ผู้เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ เพื่อจัดเวทีคืนข้อมูลสู่การยกร่างธรรมนูญสุขภาพเขตดอนเมือง ในการนี้ให้ความสำคัญในกลไก พชข. และผู้นำ node ชุมชน 95 ชุมชน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน ถือเป็นเวทีที่ 3 สู่การแปลงข้อมูลสู่ร่างนโยบายสาธารณะระดับเขต ครั้งที่ 22 : วันที่ 11-12 มี.ค. 2564 กองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประชากรต่างด้าวในชุมชน ให้แก่ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่เขตบางบอน บางแค บางขุนเทียน จอมทอง ภาษีเจริญ และหนองแขม ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ มหานาค โดยมี พญ.อริศรา ทัตตากร ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เป็นประธานและบรรยายพิเศษ เรื่อง “สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” ครั้งที่ 23 : วันที่ 19 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกพัฒนาขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตธนบุรี” ณ สำนักงานเขตธนบุรี โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานชุมชนระดับเขต (48 ชุมชน) ประธานสภาองค์กรชุมชน ประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงสถานศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เตรียมการวางแผนการจัดระบบข้อมูลเพื่อสังเคราะห์ นำไปสู่เวที คืนข้อมูล Public Screening ในระดับเขตที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2564 นี้ ที่ ม.รภ.บ้านสมเด็จฯ
ครั้งที่ 1 : วันที่ 15 ต.ค. 2563 จัดกิจกรรม “เวที KICK OFF ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต พื้นที่กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแมจิก 2 ชั้น 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 106 คน ครั้งที่ 2 : วันที่ 19 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2563” ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 3 : วันที่ 27 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ครั้งที่ 4/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 46 คน ครั้งที่ 4 : วันที่ 4 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “รับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสุขภาพกรุงเทพมหานคร” ณ โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการ สุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 5 : วันที่ 6 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “รับฟังความคิดเห็นประเด็นหาบเร่” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 6 : วันที่ 13 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 7 : วันที่ 25 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 8 : วันที่ 26 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “เวทีสมัชชาสุขภาพ กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น B2 อาคารไอราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้า ร่วมกิจกรรม 200 คน ครั้งที่ 9 : วันที่ 14 - 15 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพและกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญ สุขภาพเขตในพื้นที่นำร่อง ๑๓ เขต กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแกรนด์ฮอล์ 2 โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 150 คน ครั้งที่ 10 : วันที่ 16 - 17 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุม ZOOM เวทีสมัชชาแห่งชาติ” ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 10 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน ครั้งที่ 11 : วันที่ 21 ธ.ค. 2563 จัดประชุม “เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพ มหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน ครั้งที่ 12 : วันที่ 20 ม.ค. 2564 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 1/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 13 : วันที่ 28 ม.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ครั้งที่ 1/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 46 คน ครั้งที่ 14 : วันที่ 17 ก.พ. 2564 “การประชุมพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตทวีวัฒนา” ณ สำนักงานเขตทวีวัฒนา โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และทีมวิชาการ คณาจารย์จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดยร่วมกันออกแบบกลไกและข้อมูลที่จะใช้ในการสังเคราะห์ยกร่าง และวางปฏิทินการทำงานการพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ เพื่อขยายบทบาทและสร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนสุขภาวะ โดยผ่านกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับเขต (พชข.) ครั้งที่ 15 : วันที่ 17 ก.พ. 2564 “การประชุมแนวทางพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตบางบอน” ณ สำนักงานเขตบางบอน โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขตบางบอน เป็นประธาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางบอน หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สภาองค์กรชุมชนเขตบางบอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนงานธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ระดับเขต พื้นที่นำร่อง 13 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 16 : วันที่ 19 ก.พ. 2564 “การประชุมคณะทำงานธรรมนูญสุขภาพเขตสายไหม” ณ สำนักงานเขตสายไหม โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขตสายไหม หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนศูนย์บริการสาธารณสุข 61 สังวาลย์ ทัสนารมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และสภาองค์กรชุมชนเขตสายไหม เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาศักยภาพ กลไกคณะทำงานระดับเขต สู่ความเข้าใจร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลบริบทต้นทุนทางสังคมของเขตสายไหม ด้านประชากร ด้านสุขภาพ และข้อมูลชุมชน โดยจะส่งผ่านข้อมูลพื้นฐานชุมชนให้ มรภ.พระนคร จัดทำกลุ่มประเด็นจากฐานข้อมูลเบื้องต้น ก่อนจะร่วมกันเติมเต็มข้อมูลและออกแบบเพื่อพัฒนาเครื่องมือการขับเคลื่อนประเด็นต่อไป ครั้งที่ 17 : วันที่ 24 ก.พ. 2564 “การประชุมคณะทำงานธรรมนูญสุขภาพเขตวังทองหลาง” ณ สำนักงานเขตวังทองหลาง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวังทองหลาง ผู้อำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานสภาองค์กรชุมชนเขตวังทองหลาง และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เพื่อวางระบบและแผนงานการจัดการข้อมูล วิเคราะห์ทุนทางสังคม กลไก บทบาทในพื้นที่ เพื่อจัดทำและขับเคลื่อนงานการมีส่วนร่วม และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชื่อมโยงกับทุนศักยภาพชุมชน สังเคราะห์ปัญหา และความต้องการชุมชน ครั้งที่ 18 : วันที่ 25 ก.พ. 2564 กองสร้างเสริมสุขภาพ ศูนย์บริการสาธารณสุข 62 ตวงรัชฎ์ ศศะนาวิน สำนักงานเขตภาษีเจริญ สถานีกาชาดที่ 11 (วิเศษนิยม) สภากาชาดไทย เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ Migrant Working Group พระนิสิตจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสถานี โทรทัศน์ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่เพื่อมอบชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤตโควิด - 19 และสื่อความรู้โควิด - 19 ให้แก่ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงชาวเมียนมาที่ได้รับการกักกันตัวในสถานที่ควบคุมเป็นที่พักอาศัย (Home Quarantine) และแรงงานชาวเมียนมา ณ สถานประกอบการ ในพื้นที่เขตภาษีเจริญ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและพระนิสิตชาวเมียนมา ให้ความรู้ คำแนะนำและคำปรึกษาทาง video call ในการป้องกันตนเองจากโควิด - 19 รวมทั้งมอบแอลกอฮอล์เจล หน้ากากอนามัย และสื่อความรู้ ครั้งที่ 19 : วันที่ 10 มี.ค. 2564 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 2/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ระเบียบวาระว่าด้วยเรื่อง การขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร หาบเร่แผงลอย ธรรมนูญสุขภาพกรุงเทพมหานคร และแนวทางการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ในพื้นที่ กทม. ครั้งที่ 20 : วันที่ 10 มี.ค. 2564 “การประชุมคณะอำนวยการพัฒนาสุขภาวะเขตพื้นที่ กทม.” ณ อาคารสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้ตรวจราชการ กทม. รอง ผอ.สำนักพัฒนาสังคม หัวหน้าฝ่าย สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล สำนักอนามัย ผู้แทน กขป. สปสช. ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์ทั้ง 5 แห่ง เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการพื้นที่นำร่อง 13 เขต และหารือทิศทางและกลยุทธ์การจัดเวทีเสริมพลังในระดับมหานคร ครั้งที่ 21 : วันที่ 11 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตดอนเมือง” ณ สำนักงานเขตดอนเมือง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานเขตดอนเมือง โดยมีหัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ เป็นประธาน พร้อมประธานชุมชน เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข คณาจารย์ มรภ.สวนสุนันทา และ ดร.สัญชัย สูติพันธ์วิหาร (กขป. กทม.) ได้ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลภูมิศาสตร์ ประเด็น รวมไปถึงการวิเคราะห์ ผู้เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ เพื่อจัดเวทีคืนข้อมูลสู่การยกร่างธรรมนูญสุขภาพเขตดอนเมือง ในการนี้ให้ความสำคัญในกลไก พชข. และผู้นำ node ชุมชน 95 ชุมชน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน ถือเป็นเวทีที่ 3 สู่การแปลงข้อมูลสู่ร่างนโยบายสาธารณะระดับเขต ครั้งที่ 22 : วันที่ 11 - 12 มี.ค. 2564 กองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประชากรต่างด้าวในชุมชน ให้แก่ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่เขต บางบอน บางแค บางขุนเทียน จอมทอง ภาษีเจริญ และหนองแขม ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ มหานาค โดยมี พญ.อริศรา ทัตตากร ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย เป็นประธานและบรรยายพิเศษ เรื่อง “สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” ครั้งที่ 23 : วันที่ 19 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกพัฒนาขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตธนบุรี” ณ สำนักงานเขตธนบุรีโดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานชุมชนระดับเขต (48 ชุมชน) ประธานสภาองค์กรชุมชน ประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงสถานศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เตรียมการวางแผนการจัดระบบข้อมูลเพื่อสังเคราะห์ นำไปสู่เวที คืนข้อมูล Public Screening ในระดับเขตที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2564 นี้ ที่ มรภ.บ้านสมเด็จฯ ครั้งที่ 24 : วันที่ 19 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกพัฒนาขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตธนบุรี” ณ สำนักงานเขตธนบุรีโดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานชุมชนระดับเขต (48 ชุมชน) ประธานสภาองค์กรชุมชน ประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงสถานศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เตรียมการวางแผนการจัดระบบข้อมูลเพื่อสังเคราะห์ นำไปสู่เวที คืนข้อมูล Public Screening ในระดับเขตที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2564 นี้ ที่ มรภ.บ้านสมเด็จฯ ครั้งที่ 25 : วันที่ 23 มี.ค. 2564 “การประชุมคณะทำงานพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตทุ่งครุ” ณ สำนักงานเขตทุ่งครุ โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข ชมผู้สูงอายุ ประธานสภาองค์กรชุมชนเขต พร้อมด้วยประธานชุมชนแขวง รอง ผอ.สถาบันวิจัย มรภ.ธนบุรี ร่วมกันพิจารณาแผนและกรอบทิศทางการพัฒนาธรรมนูญฯ ของเขตทุ่งครุ ครั้งที่ 26 : วันที่ 30 มี.ค. 2564 “การประชุมคณะอนุกรรมการบริหารและเตรียมความพร้อมกลุ่มเครือข่ายในการจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2564” ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 15 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง กรุงเทพมหานคร โดยมีนายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (สำนักอนามัย/สำนักพัฒนาสังคม/สำนักงานประชาสัมพันธ์/สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล), สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 25 คน ครั้งที่ 27 : วันที่ 29 เม.ย. 2564 “การประชุมคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขตพื้นที่ 13 ครั้งที่ 2/2564”ประชุมออนไลน์ ผ่านระบบ Zoom โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 28: วันที่ 30 เม.ย. 2564 “การประชุมคณะอนุกรรมการบริหารและเตรียมความพร้อมกลุ่มเครือข่ายในการจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2564” ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 15 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพ มหานคร ดินแดง กรุงเทพมหานคร และระบบออนไลน์ โปรแกรม ZOOM โดยมีนายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพ-มหานคร เป็นประธาน โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (สำนักอนามัย/สำนักพัฒนาสังคม/สำนักงานประชาสัมพันธ์/สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล), สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 25 คน ครั้งที่ 29: วันที่ 17 พ.ค. 2564 "ประชุมอนุกรรมการวิชาการสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5/2564" ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร , สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 25 คน
ครั้งที่ 1 : วันที่ 15 ต.ค. 2563 จัดกิจกรรม “เวที KICK OFF ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต พื้นที่กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแมจิก 2 ชั้น 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 106 คน ครั้งที่ 2 : วันที่ 19 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2563” ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 3 : วันที่ 27 ต.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ครั้งที่ 4/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 46 คน ครั้งที่ 4 : วันที่ 4 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “รับฟังความคิดเห็นต่อร่างธรรมนูญสุขภาพกรุงเทพมหานคร” ณ โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการ สุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 5 : วันที่ 6 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “รับฟังความคิดเห็นประเด็นหาบเร่” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 6 : วันที่ 13 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 7 : วันที่ 25 พ.ย. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 2/2563” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 8 : วันที่ 26 พ.ย. 2563 จัดกิจกรรม “เวทีสมัชชาสุขภาพ กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น B2 อาคารไอราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้า ร่วมกิจกรรม 200 คน ครั้งที่ 9 : วันที่ 14 - 15 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพและกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญ สุขภาพเขตในพื้นที่นำร่อง ๑๓ เขต กรุงเทพมหานคร” ณ ห้องประชุมแกรนด์ฮอล์ 2 โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์, สถาบันพัฒนาองค์องค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 150 คน ครั้งที่ 10 : วันที่ 16 - 17 ธ.ค. 2563 จัดกิจกรรม “ประชุม ZOOM เวทีสมัชชาแห่งชาติ” ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 10 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน ครั้งที่ 11 : วันที่ 21 ธ.ค. 2563 จัดประชุม “เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพ มหานคร” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 20 คน ครั้งที่ 12 : วันที่ 20 ม.ค. 2564 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 1/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 13 : วันที่ 28 ม.ค. 2563 จัดประชุม “คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ครั้งที่ 1/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 46 คน ครั้งที่ 14 : วันที่ 17 ก.พ. 2564 “การประชุมพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตทวีวัฒนา” ณ สำนักงานเขตทวีวัฒนา โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และทีมวิชาการ คณาจารย์จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดยร่วมกันออกแบบกลไกและข้อมูลที่จะใช้ในการสังเคราะห์ยกร่าง และวางปฏิทินการทำงานการพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ เพื่อขยายบทบาทและสร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนสุขภาวะ โดยผ่านกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับเขต (พชข.) ครั้งที่ 15 : วันที่ 17 ก.พ. 2564 “การประชุมแนวทางพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตบางบอน” ณ สำนักงานเขตบางบอน โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขตบางบอน เป็นประธาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางบอน หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สภาองค์กรชุมชนเขตบางบอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนงานธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ระดับเขต พื้นที่นำร่อง 13 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 16 : วันที่ 19 ก.พ. 2564 “การประชุมคณะทำงานธรรมนูญสุขภาพเขตสายไหม” ณ สำนักงานเขตสายไหม โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขตสายไหม หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนศูนย์บริการสาธารณสุข 61 สังวาลย์ ทัสนารมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และสภาองค์กรชุมชนเขตสายไหม เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาศักยภาพ กลไกคณะทำงานระดับเขต สู่ความเข้าใจร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลบริบทต้นทุนทางสังคมของเขตสายไหม ด้านประชากร ด้านสุขภาพ และข้อมูลชุมชน โดยจะส่งผ่านข้อมูลพื้นฐานชุมชนให้ มรภ.พระนคร จัดทำกลุ่มประเด็นจากฐานข้อมูลเบื้องต้น ก่อนจะร่วมกันเติมเต็มข้อมูลและออกแบบเพื่อพัฒนาเครื่องมือการขับเคลื่อนประเด็นต่อไป ครั้งที่ 17 : วันที่ 24 ก.พ. 2564 “การประชุมคณะทำงานธรรมนูญสุขภาพเขตวังทองหลาง” ณ สำนักงานเขตวังทองหลาง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวังทองหลาง ผู้อำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานสภาองค์กรชุมชนเขตวังทองหลาง และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เพื่อวางระบบและแผนงานการจัดการข้อมูล วิเคราะห์ทุนทางสังคม กลไก บทบาทในพื้นที่ เพื่อจัดทำและขับเคลื่อนงานการมีส่วนร่วม และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชื่อมโยงกับทุนศักยภาพชุมชน สังเคราะห์ปัญหา และความต้องการชุมชน ครั้งที่ 18 : วันที่ 25 ก.พ. 2564 กองสร้างเสริมสุขภาพ ศูนย์บริการสาธารณสุข 62 ตวงรัชฎ์ ศศะนาวิน สำนักงานเขตภาษีเจริญ สถานีกาชาดที่ 11 (วิเศษนิยม) สภากาชาดไทย เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ Migrant Working Group พระนิสิตจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสถานี โทรทัศน์ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่เพื่อมอบชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤตโควิด - 19 และสื่อความรู้โควิด - 19 ให้แก่ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงชาวเมียนมาที่ได้รับการกักกันตัวในสถานที่ควบคุมเป็นที่พักอาศัย (Home Quarantine) และแรงงานชาวเมียนมา ณ สถานประกอบการ ในพื้นที่เขตภาษีเจริญ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและพระนิสิตชาวเมียนมา ให้ความรู้ คำแนะนำและคำปรึกษาทาง video call ในการป้องกันตนเองจากโควิด - 19 รวมทั้งมอบแอลกอฮอล์เจล หน้ากากอนามัย และสื่อความรู้ ครั้งที่ 19 : วันที่ 10 มี.ค. 2564 จัดประชุม “คณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพ มหานคร ครั้งที่ 2/2564” ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ระเบียบวาระว่าด้วยเรื่อง การขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร หาบเร่แผงลอย ธรรมนูญสุขภาพกรุงเทพมหานคร และแนวทางการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ในพื้นที่ กทม. ครั้งที่ 20 : วันที่ 10 มี.ค. 2564 “การประชุมคณะอำนวยการพัฒนาสุขภาวะเขตพื้นที่ กทม.” ณ อาคารสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้ตรวจราชการ กทม. รอง ผอ.สำนักพัฒนาสังคม หัวหน้าฝ่าย สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล สำนักอนามัย ผู้แทน กขป. สปสช. ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์ทั้ง 5 แห่ง เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการพื้นที่นำร่อง 13 เขต และหารือทิศทางและกลยุทธ์การจัดเวทีเสริมพลังในระดับมหานคร ครั้งที่ 21 : วันที่ 11 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตดอนเมือง” ณ สำนักงานเขตดอนเมือง โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานเขตดอนเมือง โดยมีหัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ เป็นประธาน พร้อมประธานชุมชน เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข คณาจารย์ มรภ.สวนสุนันทา และ ดร.สัญชัย สูติพันธ์วิหาร (กขป. กทม.) ได้ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลภูมิศาสตร์ ประเด็น รวมไปถึงการวิเคราะห์ ผู้เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ เพื่อจัดเวทีคืนข้อมูลสู่การยกร่างธรรมนูญสุขภาพเขตดอนเมือง ในการนี้ให้ความสำคัญในกลไก พชข. และผู้นำ node ชุมชน 95 ชุมชน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน ถือเป็นเวทีที่ 3 สู่การแปลงข้อมูลสู่ร่างนโยบายสาธารณะระดับเขต ครั้งที่ 22 : วันที่ 11 - 12 มี.ค. 2564 กองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประชากรต่างด้าวในชุมชน ให้แก่ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่เขต บางบอน บางแค บางขุนเทียน จอมทอง ภาษีเจริญ และหนองแขม ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ มหานาค โดยมี พญ.อริศรา ทัตตากร ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย เป็นประธานและบรรยายพิเศษ เรื่อง “สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” ครั้งที่ 23 : วันที่ 19 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกพัฒนาขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตธนบุรี” ณ สำนักงานเขตธนบุรีโดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานชุมชนระดับเขต (48 ชุมชน) ประธานสภาองค์กรชุมชน ประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงสถานศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เตรียมการวางแผนการจัดระบบข้อมูลเพื่อสังเคราะห์ นำไปสู่เวที คืนข้อมูล Public Screening ในระดับเขตที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2564 นี้ ที่ มรภ.บ้านสมเด็จฯ ครั้งที่ 24 : วันที่ 19 มี.ค. 2564 “การประชุมกลไกพัฒนาขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพเขตธนบุรี” ณ สำนักงานเขตธนบุรีโดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข ประธานชุมชนระดับเขต (48 ชุมชน) ประธานสภาองค์กรชุมชน ประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงสถานศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เตรียมการวางแผนการจัดระบบข้อมูลเพื่อสังเคราะห์ นำไปสู่เวที คืนข้อมูล Public Screening ในระดับเขตที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2564 นี้ ที่ มรภ.บ้านสมเด็จฯ ครั้งที่ 25 : วันที่ 23 มี.ค. 2564 “การประชุมคณะทำงานพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพระดับเขตทุ่งครุ” ณ สำนักงานเขตทุ่งครุ โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข ชมผู้สูงอายุ ประธานสภาองค์กรชุมชนเขต พร้อมด้วยประธานชุมชนแขวง รอง ผอ.สถาบันวิจัย มรภ.ธนบุรี ร่วมกันพิจารณาแผนและกรอบทิศทางการพัฒนาธรรมนูญฯ ของเขตทุ่งครุ ครั้งที่ 26 : วันที่ 30 มี.ค. 2564 “การประชุมคณะอนุกรรมการบริหารและเตรียมความพร้อมกลุ่มเครือข่ายในการจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2564” ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 15 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง กรุงเทพมหานคร โดยมีนายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (สำนักอนามัย/สำนักพัฒนาสังคม/สำนักงานประชาสัมพันธ์/สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล), สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 25 คน ครั้งที่ 27 : วันที่ 29 เม.ย. 2564 “การประชุมคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขตพื้นที่ 13 ครั้งที่ 2/2564”ประชุมออนไลน์ ผ่านระบบ Zoom โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน ครั้งที่ 28: วันที่ 30 เม.ย. 2564 “การประชุมคณะอนุกรรมการบริหารและเตรียมความพร้อมกลุ่มเครือข่ายในการจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2564” ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 15 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพ มหานคร ดินแดง กรุงเทพมหานคร และระบบออนไลน์ โปรแกรม ZOOM โดยมีนายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพ-มหานคร เป็นประธาน โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (สำนักอนามัย/สำนักพัฒนาสังคม/สำนักงานประชาสัมพันธ์/สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล), สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 25 คน ครั้งที่ 29: วันที่ 17 พ.ค. 2564 "ประชุมอนุกรรมการวิชาการสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5/2564" ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร , สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 25 คน
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 จากปีที่มา เป้าหมาย :10.00 ผลงาน :12.09 |
อยู่ระหว่างรออนุมัติโครงการฯ และขออนุมัติใช้เงินนอกงบประมาณ (บัญชี) โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของสำนักอนามัย
- โครงการเครือข่ายความร่วมมือในการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักอนามัย : ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ได้อนุมัติโครงการฯ และอนุมัติใช้เงินนอกงบประมาณ (บัญชี) โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของสำนักอนามัย ตามหนังสือกองเภสัชกรรมที่ กท 0710/927 ลงวันที่ 13 พ.ย. 63 และอยู่ระหว่างการติดตามการดำเนินงานของร้านยาภายใต้โครงการเครือข่ายฯ และร้านยาที่สมัครเข้าร่วมเป็นเครือข่ายฯในปีงบประมาณ 2564 - โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ : ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ได้อนุมัติโครงการฯ และอนุมัติใช้เงินนอกงบประมาณ (บัญชี) โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของสำนักอนามัย ตามหนังสือกองเภสัชกรรมที่ กท 0710/67 ลงวันที่ 26 ม.ค. 64 และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมให้แก่ศูนย์บริการสาธารณสุขในการดำเนินงานการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในชุมชน
- โครงการเครือข่ายความร่วมมือในการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักอนามัย : ปีงบประมาณ 2564 มีร้านยาภายใต้โครงการเครือข่ายฯ ปิดกิจการ จำนวนทั้งสิ้น 3 ร้าน คงเหลือร้านยาภายใต้โครงการเครือข่ายฯ เดิมทั้งสิ้น 77 ร้าน และมีร้านยาสมัครเข้าร่วมเป็นร้านยาภายใต้โครงการเครือข่ายฯ ใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 15 ร้าน รวมมีร้านยาที่ต้องติดตามและประเมินผลการดำเนินงานทั้งสิ้น 92 ร้าน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตามผลการดำเนินงานของร้านยาเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการเครือข่ายฯ เพื่อประเมินและรับรองร้านยาต่อไป - โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ : อยู่ระหว่างติดตามผลการดำเนินกิจกรรมด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ของศูนย์บริการสาธารณสุข
- โครงการเครือข่ายความร่วมมือในการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักอนามัย: มติที่ประชุมคณะกรรมการเครือข่ายความร่วมมือในการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักอนามัย ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2564 รับรองร้านยาเข้าร่วมเป็นร้านยาภายใต้โครงการเครือข่ายฯ จำนวนทั้งสิ้น 91 ร้าน คิดเป็นมีเครือข่ายฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.09 จากปีที่ผ่านมา (เป้าหมาย : ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา) - โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ: ร้อยละ 100 ของศูนย์บริการสาธารณสุข มีการดำเนินกิจกรรมด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตามที่กองเภสัชกรรมกำหนด
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
ดำเนินการคัดกรองภาวะซึมเศร้าผู้รับบริการในคลินิกครอบครัวอบอุ่น จำนวน 973 คน พบกลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าจำนวน 23 คน กลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าได้รับการดูแล จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 100 (ข้อมูล พฤศจิกายน 2563)
ดำเนินการคัดกรองภาวะซึมเศร้าผู้รับบริการในคลินิกครอบครัวอบอุ่น จำนวน 2003 คน พบกลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าจำนวน 67 คน กลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าได้รับการดูแล จำนวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 100 (ข้อมูล กุมภาพันธ์ 2564)
ดำเนินการคัดกรองภาวะซึมเศร้าผู้รับบริการในคลินิกครอบครัวอบอุ่น จำนวน 3761 คน พบกลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าจำนวน 95 คน กลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าได้รับการดูแล จำนวน 95 คน คิดเป็นร้อยละ 100 (ข้อมูล พฤษภาคม 2564)
ดำเนินการคัดกรองภาวะซึมเศร้าผู้รับบริการในคลินิกครอบครัวอบอุ่น จำนวน 4416 คน พบกลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าจำนวน 174 คน กลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้าได้รับการดูแล จำนวน 174 คน คิดเป็นร้อยละ 100 (ข้อมูล สิงหาคม 2564)
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ราย เป้าหมาย :215,000.00 ผลงาน :42,149.00 |
กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ปี 2564
ประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 20,180 คน
ประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 31,821 คน
ประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 42,149 คน
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :36.00 ผลงาน :28.19 |
กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ปี 2564
ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับค่าน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ (HbA1c) ครั้งสุดท้ายน้อยกว่า 7 % จำนวน 3,960 คน จากจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 19,529 คน คิดเป็นร้อยละ 20.3
ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับค่าน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ (HbA1c) ครั้งสุดท้ายน้อยกว่า 7 % จำนวน 4,620 คน จากจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 19,529 คน คิดเป็นร้อยละ 23.66
ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับค่าน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ (HbA1c) ครั้งสุดท้ายน้อยกว่า 7 % จำนวน 5,505 คน จากจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 19,529 คน คิดเป็นร้อยละ 28.19
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :36.00 ผลงาน :44.99 |
กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ปี 2564
ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับค่าความดันโลหิต 2 ครั้ง สุดท้ายน้อยกว่า 140/90 มม.ปรอท จำนวน 6,059 คน จากจำนวนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน 20,824 คน คิดเป็นร้อยละ 29.1
ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับค่าความดันโลหิต 2 ครั้ง สุดท้ายน้อยกว่า 140/90 มม.ปรอท จำนวน 8,403 คน จากจำนวนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน 20,824 คน คิดเป็นร้อยละ 40.35
ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับค่าความดันโลหิต 2 ครั้ง สุดท้ายน้อยกว่า 140/90 มม.ปรอท จำนวน 9,368 คน จากจำนวนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน 20,824 คน คิดเป็นร้อยละ 44.99
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :65.23 |
กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ปี 2564
ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน 40,353 คน ได้รับการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD Risk) จำนวน 16,464 คน คิดเป็นร้อยละ 40.8
ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน 40,353 คน ได้รับการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD Risk) จำนวน 21,752 คน คิดเป็นร้อยละ 53.90
ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียน 40,353 คน ได้รับการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD Risk) จำนวน 26,321 คน คิดเป็นร้อยละ 65.23
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :60.00 ผลงาน :98.90 |
1.จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สนับสนุนการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
1.จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สนับสนุนการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
1.จัดส่งสื่อประชาสัมพันธ์สนับสนุนการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน 2.สำนักงานเขตตรวจสอบและรายงานผลการตรวจแนะนำกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพกลุ่มกิจการที่เกี่ยวกับหิน ดิน ทราย ซีเมนต์ หรือวัตถุที่คล้ายคลึง ตามแบบฟอร์มที่กำหนด มายังสำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม
การดำเนินงานส่งเสริมความรู้ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานให้กับเจ้าของหรือผู้ดูแลกิจการ หิน ดิน ทราย ซีเมนต์ หรือวัตถุคล้ายคลึง ในพื้นที่ 50 สำนักงานเขต จำนวน 95 แห่ง พบว่า ถูกสุขลักษณะ จำนวน 94 แห่ง (ร้อยละ 98.9) ได้รับคำแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไข จำนวน 1 แห่ง (ร้อยละ 1.1) และได้แนะนำเพิ่มเติมในประเด็น 1.ความปลอดภัยของเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องใช้และอุปกรณ์ 2.การจัดการมลพิษทางอากาศและมลพิษทางเสียง และ 3.การป้องกันเหตุรำคาญกับชุมชนรอบข้าง ประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่อโปสเตอร์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทาง Online ต่างๆ
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :0.00 |
1. สรรหาและประสานผู้รับจ้างเหมาจัดทำสื่อรณรงค์การใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ถูกวิธี 2. แต่งตั้งคณะกรรมการจ้างเหมาจัดทำสื่อรณรงค์การใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ถูกวิธี
ประสานสำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรรหาห้องน้ำสาธารณะเข้าร่วมการประกวดสุดยอดห้องน้ำแห่งปีของกรุงเทพมหานคร
1. ประสานสำนักงานเขต เพื่อจัดส่งสื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ถูกวิธี ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ให้สถานที่กลุ่มเป้าหมาย 12 กลุ่มเป้าหมาย 2. ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ได้อนุมัติงดการจัดกิจกรรมการประกวดสุดยอดห้องน้ำแห่งปีของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ทำให้เจ้าหน้าที่มีภารกิจต้องดำเนินการมากมาย ประกอบกับสถานที่กลุ่มเป้าหมายได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว
ผู้อำนวยการสำนักอนามัยได้อนุมัติงดการตรวจประเมินสุขลักษณะห้องน้ำสาธารณะในสถานที่กลุ่มเป้าหมายประจำปี 2564 แล้ว เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid - 19) ดังนั้น การดำเนินการตามตัวชี้วัดที่กำหนดตามกิจกรรมดังกล่าวจึงไม่สามารถดำเนินการได้ แต่อย่างไรก็ตามได้ประสานสำนักงานเขตรณรงค์เผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสุขลักษณะห้องน้ำสาธารณะแล้ว งบประมาณที่ได้รับในกิจกรรม จำนวน 472,550 บาท งบประมาณที่ใช้ไป จำนวน 199,800 บาท และคืนงบประมาณ จำนวน 272,750 บาท
๑.๖.๑ คนกรุงเทพฯ มีสุขภาวะทางกายและจิต มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ไม่มีภาวะเจ็บป่วยจาก โร | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :40.00 ผลงาน :72.46 |
กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ปี 2564
ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ผ่านเกณฑ์การประเมินคลินิกผู้สูงอายุครบวงจร จำนวน 30 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 43.48
ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ผ่านเกณฑ์การประเมินคลินิกผู้สูงอายุครบวงจร จำนวน 50 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72.46
ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ผ่านเกณฑ์การประเมินคลินิกผู้สูงอายุครบวงจร จำนวน 50 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72.46
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :90.00 ผลงาน :92.63 |
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 1,617 คน คิดเป็นร้อยละ 4.90
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 16,564 คน คิดเป็นร้อยละ 50.20
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 21,027 คน คิดเป็นร้อยละ 63.7
จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตั้งเป้าหมายให้เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน ปี 2564 จำนวน 33,000 คน จำนวนชายมีเพศสัมพันธ์กับชายที่เข้าถึงข้อมูลความรู้และอุปกรณ์ป้องกัน จำนวน 30,568 คน คิดเป็นร้อยละ 92.63
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :97.00 ผลงาน :100.00 |
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 22 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 100
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 102 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 102 คน คิดเป็นร้อยละ 100
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 191 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 191 คน คิดเป็นร้อยละ 100
จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาทั้งหมด ของศูนย์บริการสาธารณสุขนำร่อง 8 แห่ง จำนวน 259 คน จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าเกณฑ์การรักษาได้รับยาต้านไวรัส ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 259 คน คิดเป็นร้อยละ 100
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :89.00 ผลงาน :90.27 |
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 1/2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 149 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 128 คน คิดเป็นร้อยละ 85.91
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 1-2/2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 337 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 300 คน คิดเป็นร้อยละ 89.02
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 1-3/2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 495 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 444 คน คิดเป็นร้อยละ 89.70
ผลสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทรอบ 2563 จำนวนผู้ป่วยที่นำมาประเมิน 648 คน มีผลการรักษาสำเร็จ 585 คน คิดเป็นร้อยละ 90.27
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ไม่เกินเปอร์เซ็นไทล์ที่ 80 ของข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :20.51 |
ดำเนินการสำรวจค่า CI HI ตามแผน
จำนวนผู้ป่วย x 100,000 / ประชากรปี 2563 661 x 100,000 / 5,588,222 = 11.83 ไม่เกินเปอร์เซนไทล์ที่ 80 ของ 5 ปีย้อนหลัง (<298.56)
จำนวนผู้ป่วย x 100,000 / ประชากรปี 2563 844 x 100,000 / 5,588,222 = 15.10 ไม่เกินเปอร์เซนไทล์ที่ 80 ของ 5 ปีย้อนหลัง (<298.56)
จำนวนผู้ป่วย x 100,000 / ประชากรปี 2563 1146 x 100,000 / 5,588,222 = 20.51 ไม่เกินเปอร์เซนไทล์ที่ 80 ของ 5 ปีย้อนหลัง (<298.56)
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
ดำเนินการรับแจ้งข่าวและลงสอบสวนโรค COVID-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
รายงานสอบสวนโรคดำเนินการเรียบร้อยแล้ว x 100 / ยอดทั้งหมดของรายงานสอบสวนโรค 845x100/1,065 = 79.34
ดำเนินการตามกระบวนการ ดังนี้- รับแจ้งข้อมูลผู้ป่วย ผู้สัมผัส - ติดตามข้อมูลผู้ป่วย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ - จัดทำฐานข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยผู้สัมผัส - จัดทำรายงานสถานการณ์ - ปฏิบัติการสอบสวนโรคในพื้นที่ - จัดทำรายงานสอบสวนโรค - ติดตามการสอบสวนโรคและรายงานสอบสวนโรคของศูนย์บริการสาธารณสุข กลุ่มผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ตามที่นำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.กทม. ได้รับการสอบสวนและควบคุมโรคเบื้องต้น จำนวน 220 Cluster
กลุ่มผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) 220 x 100/220 = 100
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :75.00 ผลงาน :62.55 |
วางแผนการดำเนินงาน
ประชุมวางแผนการดำเนินงาน
กระจายวัคซีนให้ศบส. และศบส.กำลังให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่กลุ่มเป้าหมาย
ให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเป้าหมาย และสรุปผลการดำเนินงาน วัคซีนที่ได้รับสนับสนุนฟรีจำนวน 85714 ขวด กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับวัคซีนจำนวน 53613 คน (53613×100÷85714=62.55)
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :94.12 |
วางแผนการดำเนินงาน
อยู่ระหว่างขออนุมัติยกเลิกโครงการ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ระลอกใหม่ยังพบผู้ป่วยสูงขึ้นเรื่อยๆ และตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม2564 พบการระบาดเป็นกลุ้มก้อนในพื้นที่เขตบางแค บางขุนเทียน เจ้าหน้าของกองควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุขของศูนย์บริการสาธารณสุขซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ต้องระดมสรรพกำลังในการควบคุมโรคโควิดไม่ให้ระบาดในวงกว่้าง ประกอบกับต้องระดมกำลังให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ทันเวลาตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขและเงื่อนเวลาดังกล่าว กองควบคุมโรคติดต่อพิจารณาว่า กลุ่มเป้าหมายไม่สามารถที่จะเข้าร่วมประชุมตามแผนปฏิบัติงานที่โครงการกำหนดจึงได้ทำหนังสือเรียนผู้อำนวยการสำนักอนามัย เพื่อขออนุมัติยกเลิกโครงการ หมายเหตุ โครงการนี้ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี
ยกเลิกโครงการที่สนับสนุนตัวชี้วัด แต่ได้นำกิจกรรมที่เป็นงานประจำคือประชุมเชิงปฏิบัติการการเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อในสถานศึกษามาทดแทน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประชุมเชิงปฏิบัติการการเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อในสถานศึกษาในวันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคระบบทางเดินหายใจในสถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และสถานรับเลี้ยงเด็กกลางวัน และเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจากกลุ่มเขตทั้ง 6 กลุ่ม พยาบาลศูนย์บริการสาธารณสุขจากทั้ง 6 กลุ่มเขต สำนักการศึกษา สำนักงานสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่กองควบคุมโรคติดต่อ กลุ่มเป้าหมายจำนวน 34 คน ผลการดำเนินงาน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้เรื่องโรคติดต่อที่สำคัญตามฤดูกาลตามเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 94.12 (จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 34 คน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้เรื่องโรคติดต่อที่สำคัญตามฤดูกาลตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 32 คน =32*100/34=94.12%)
๑.๖.๒ โรคติดต่อที่สำคัญในเมืองได้รับการเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้ระบาดไปในวงกว้าง | |
![]() |
หน่วยนับ :ราย เป้าหมาย :0.00 ผลงาน :0.00 |
6.1 จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า(ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 จำนวน 6,967 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน1,717 ตัว แมว จำนวน5,248 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 2 ตัว 6.2 ตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในตัวอย่างซากสุนัขและแมวที่ส่งตรวจลดลง 10% ของค่า Median 5 ปีย้อนหลัง(ผลลัพธ์) (ค่า Median 5 ปีย้อนหลัง 5 ปี = 32 case ดังนั้นการตรวจพบลดลง 10% = 3.2 case ฉะนั้นตามตัวชี้วัด ปีงบฯ 64 จึงตรวจพบได้ไม่เกิน 32-3.2 = 28.8 case ปัดเศษขึ้น) ผลการส่งตัวอย่างซากสุนัขและแมวตรวจทางห้องปฏิบัติการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ยังไม่พบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า 6.3 อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า...//
จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า(ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 จำนวน 55,544 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน 23,258 ตัว แมว จำนวน 31,956 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 230 ตัว อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า...//
จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 สามารถดำเนินการได้ จำนวนทั้งสิ้น 89,481 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน 39,184 ตัว แมวจำนวน 50,013 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 284 ตัว อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า...//
จำนวนสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ผลผลิต) ผลการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตวเลี้ยงของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 สามารถดำเนินการได้ จำนวนทั้งสิ้น 101,201 ตัว แบ่งเเป็นสุนัข จำนวน 44,322 ตัว แมวจำนวน 56,594 ตัว และสัตว์อื่น ๆ จำนวน 285 ตัว อัตราป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า (ผลลัพธ์) ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ยังไม่พบประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครป่วยตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า.../
๑.๖.๓ คนกรุงเทพฯทุกคนมีโอกาสได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เท่าเทียม มีคุณภาพ แ | |
![]() |
หน่วยนับ :ศูนย์บริการสาธารณสุข เป้าหมาย :5.00 ผลงาน :2.00 |
กองการพยาบาลสาธารณสุข ได้รับอนุมัติโครงการ การพัฒนา ประเมินและรับรองคุณภาพศูนย์บริการสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยดำเนินการเสนอโครงการ เพื่อของบประมาณ และอยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมรายชื่อแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างที่ปรึกษา เพื่อเตรียมดำเนินการลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษา
เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อยู่ระหว่างการลงนามสัญญาการจ้างที่ปรึกษา และอยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานงานศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาคุณภาพศูนย์บริการสาธารณสุขให้ผ่านการรับรองจากองค์กรภายนอก
อยู่ระหว่างการดำเนินตรวจเยี่ยมให้การประเมินและรับรองคุณภาพมาตรฐานศูนย์บริการสาธารณสุข (PHCA) โดยสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) (สรพ.) เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ ทำให้ลงตรวจในภาคพื้นที่ได้ยากลำบาก
ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ได้รับการรับรองคุณภาพศูนย์บริการสาธารณสุข (Accreditation) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 21 วัดธาตุทอง (28 ตุลาคม 2563 - 27 ตุลาคม 2565) และศูนย์บริการสาธารณสุข 50 บึงกุ่ม (23 มิถุนายน 2564 - 22 มิถุนายน 2565) จากศูนย์บริการสาธารณสุขที่เข้าร่วมทั้งหมด 15 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 13.33 เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ศูนย์บริการสาธารณสุขมีภารกิจในการควบคุมและป้องกันโรคอย่าง ต่อเนื่อง อีกทั้งการเข้าตรวจประเมินในภาคพื้นที่ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อ ทำให้การลงตรวจในภาคพื้นที่ได้ยากลำบาก หรือลงพื้นที่ไม่ได้ จึงดำเนินการขอขยายสัญญาจ้างที่ปรึกษา (TOR) เพื่อดำเนินการพัฒนา ประเมินและรับรองคุณภาพศูนย์บริการสาธารณสุข โดยขยายสัญญาเพิ่มอีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน (ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2565)
๑.๖.๓ คนกรุงเทพฯทุกคนมีโอกาสได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เท่าเทียม มีคุณภาพ แ | |
![]() |
หน่วยนับ :อย่างน้อย 20 เรื่อง เป้าหมาย :20.00 ผลงาน :29.00 |
1. ขออนุมัติโครงการ แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 2. จัดเตรียมเอกสารประกอบการขออนุมัติเงินประจำงวด 3. ประชาสัมพันธ์การส่งผลงานเข้าร่วมโครงการนวัตกรรทางการแพทย์และสาธารณสุข สำนักอนามัย ปี 2564 4. จัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ ที่ใช้ในโครงการฯ
1. จัดทำคำสั่งคณะกรรมการจัดงานนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข สำนักอนามัย 2. จัดกิจกรรมที่ 1 เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3. จัดเตรียมการประชุมคณะกรรมการจัดงานนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข สำนักอนามัย
1. รวบรวมผลงานนวัตกรรมที่ส่งมาประกวด 2. จัดทำคำสั่งคณะกรรมการตัดสินผลงานนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข สำนักอนามัย 3. จัดทำรูปเล่มผลงานนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข
1. วางแผนกำหนดการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเปิดโครงการการประกวดและตัดสินผลงานการประชาสัมพันธ์ส่งผลงาน 2. จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานฯ 3. ประชุมคณะกรรมการ เพื่อกำหนดรูปแบบการจัดงาน และการจัดสถานที่จัดงาน 4. กิจกรรมที่ 1 จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเปิดโครงการ 5. รวบรวมผลงานที่ส่งเข้าประกวด เพื่อเสนอคณะกรรมการตัดสินผลงาน 6. ทำหนังสือที่ กท.0702/1350 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เรื่อง ขออนุมัติยกเลิกการจัดกิจกรรมที่ 2 และ 3 7. มีการรวบรวมแบบเสนอผลงานนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 29 ผลงาน ดังนี้ 1 ประเภท กระบวนการ (Process) มีผลงาน 16 ผลงาน ได้แก่ 1) การพัฒนาระบบการจัดการวัสดุและอุปรณ์ทางการแพทย์ผ่านทางเว็บไซต์ www.fa - equipment.com 2) การพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานและระบบการรายงานผลด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและเรื่องที่เกี่ยวข้องของกรุงเทพมหานคร 3) สื่อสารไร้สาย รับผลฉับไว 4) ทันตกรรมปลอดภัยสู้โควิด 5) โปรแกรมเพื่อนช่วยเตือน (Material Control For Health Center) 6) การประยุกต์สร้างเครื่องบรรจุยาแชมพู 7) ต้นแบบโรงเรียนผู้สูงอายุกับการพัฒนาที่ยั่งยืน 8) Calender for care 9) คูหาบ้วนน้ำลายเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบถอดประกอบได้ 10) โดมคลุมช่องปากลดการฟุ้งกระจายในงานทันตกรรม 11) รวมผลงานนวัตกรรม ชุดการดูแลเท้าเบาหวาน 12) โมเดลบาดแผล สื่อการสอนจากวัสดุเหลือใช้ 13) หลับสบาย สไตล์ไทยเฮิร์บ 14) การส่งเสริมพัฒนาศักยภาพในผู้สูงอายุที่มีภาวะบกพร่องใน ระยะต้น เพื่อป้องกันหลงลืมและกันล้ม 15) LINE ฟ.ฟัน ตรวจนัดครบจบทีเดียว 16) กายภาพบำบัดทางไกล Tele (re) hap 2 ประเภท สิ่งประดิษฐ์ (Product) มีผลงาน 13 ผลงาน ได้แก่ 1) อย่าลืมฉัน (forget me not) 2) โปรแกรมลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์ผู้มารับบริการด้วยบัตรประชาชน 3) แผ่นปิดวัดสายตา Disposible 4) กุญแจล็อคตู้เย็นวัคซีนปิดสนิท ศบส.34 โพธิ์ศรี 5) สบายกาย สไตล์กายภาพ 6) Kidney Pharma Care : Application แนวทางการปรับขนาดยาในผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) 7) วงล้อชวนคิด กราฟชีวิตลิขิตไต 8) พลิกตัวฉับไว ไร้ผลกดทับ 9) ปีศาจแสนกล เปลี่ยนคน เปลี่ยนใจ 10) ขนาดนั้น สำคัญไฉน 11) ขวดปรับยาในผู้ป่วยไต 12) ข้อ (เท้า) ติดจ๋าลาก่อน 13) ภูเขาวัดใจ สู้ภัยบุหรี่
๑.๖.๓ คนกรุงเทพฯทุกคนมีโอกาสได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เท่าเทียม มีคุณภาพ แ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :58.00 ผลงาน :100.00 |
จัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาบริการสุขภาพปฐมภูมิของสำนักอนามัย ครั้งที่ 1 วันที่ 24 ธันวามคม 2563 มอบหมายให้ทุก ศบส.69 แห่ง เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562 และมอบประธานกลุ่มศูนย์บริการสาธารรสุข สำรวจแพทย์ประจำของศูนย์บริการสาธารณสุข ที่ยังไม่ผ่านการอบรมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
จัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาบริการสุขภาพปฐมภูมิของสำนักอนามัย ครั้งที่ 1 วันที่ 24 ธันวามคม 2563 มอบหมายให้ทุก ศบส.69 แห่ง เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562 และมอบประธานกลุ่มศูนย์บริการสาธารรสุข สำรวจแพทย์ประจำของศูนย์บริการสาธารณสุข ที่ยังไม่ผ่านการอบรมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
จัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาบริการสุขภาพปฐมภูมิของสำนักอนามัย ครั้งที่ 1 วันที่ 24 ธันวามคม 2563 มอบหมายให้ทุก ศบส.69 แห่ง เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562 และมอบประธานกลุ่มศูนย์บริการสาธารรสุข สำรวจแพทย์ประจำของศูนย์บริการสาธารณสุข ที่ยังไม่ผ่านการอบรมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
ในปีงบประมาณพ.ศ2564 มีเขตที่เข้าร่วม 50 เขต ดำเนินการได้ครบทั้ง 50 เขต ดำเนินได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ซึ่งกำหนดไว้ 29 เขต
๑.๖.๕ กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอาหารปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และสารปนเปื้อน | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
- ร้อยละความสำเร็จในการส่งเสริมให้สถานประกอบการอาหารมีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี (เป้าหมายร้อยละ 100) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2563 มีสถานประกอบการอาหารที่ได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี จำนวน 791 ราย จากจำนวนสถานประกอบการอาหารทั้งหมด 20,193 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.92 (ป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร มีอายุการรับรอง 1 ปี) - ร้อยละความสำเร็จในการดำเนินการตรวจอาหารปลอดภัยของสถานประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต (เป้าหมายร้อยละ 70) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2563 สถานประกอบการอาหารที่ไม่มีใบอนุญาตทั้งหมด 812 ราย ได้รับการตรวจคุณภาพอาหาร จำนวน 482 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.36 - ร้อยละความสำเร็จของสถานประกอบการอาหารที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานครระดับดี มีการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) (เป้าหมายร้อยละ 20) อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจแนะนำสถานประกอบการอาหารให้มีการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดีมากหรือดีเยี่ยม ซึ่งสถานประกอบการอาหารต้องจัดให้มีการจัดบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) -//-
- ร้อยละความสำเร็จในการส่งเสริมให้สถานประกอบการอาหารมีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี (เป้าหมายร้อยละ 100) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2564 มีสถานประกอบการอาหารที่ได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี จำนวน 7,218 ราย จากจำนวนสถานประกอบการอาหารทั้งหมด 20,360 ราย คิดเป็นร้อยละ 35.45 (ป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร มีอายุการรับรอง 1 ปี) - ร้อยละความสำเร็จในการดำเนินการตรวจอาหารปลอดภัยของสถานประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต (เป้าหมายร้อยละ 70) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2564 สถานประกอบการอาหารที่ไม่มีใบอนุญาตทั้งหมด 1,082 ราย ได้รับการตรวจคุณภาพอาหาร จำนวน 894 ราย คิดเป็นร้อยละ 82.62 - ร้อยละความสำเร็จของสถานประกอบการอาหารที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานครระดับดี มีการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) (เป้าหมายร้อยละ 20) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2564 มีสถานประกอบการอาหารที่ผ่านการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี และมีบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) (ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก/ระดับเลิศ) จำนวน 2,612 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.83 ของจำนวนสถานประกอบการอาหารที่ได้รับใบอนุญาต/หนังสือรับรองการแจ้งทั้งหมด-//-
- ร้อยละความสำเร็จในการส่งเสริมให้สถานประกอบการอาหารมีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี (เป้าหมายร้อยละ 100) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 มีสถานประกอบการอาหารที่ได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี จำนวน 13,577 ราย จากจำนวนสถานประกอบการอาหารทั้งหมด 20,579 ราย คิดเป็นร้อยละ 65.98 (ป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร มีอายุการรับรอง 1 ปี) - ร้อยละความสำเร็จในการดำเนินการตรวจอาหารปลอดภัยของสถานประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต (เป้าหมายร้อยละ 70) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 สถานประกอบการอาหารที่ไม่มีใบอนุญาตทั้งหมด 1,106 ราย ได้รับการตรวจคุณภาพอาหาร จำนวน 1,025 ราย คิดเป็นร้อยละ 92.68 - ร้อยละความสำเร็จของสถานประกอบการอาหารที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานครระดับดี มีการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) (เป้าหมายร้อยละ 20) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 มีสถานประกอบการอาหารที่ผ่านการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี และมีบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) (ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก/ระดับเลิศ) จำนวน 5,432 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.40 ของจำนวนสถานประกอบการอาหารที่ได้รับใบอนุญาต/หนังสือรับรองการแจ้งทั้งหมด-//-
- ร้อยละความสำเร็จในการส่งเสริมให้สถานประกอบการอาหารมีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี (เป้าหมายร้อยละ 100) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 มีสถานประกอบการอาหารที่ได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี จำนวน 19,260 ราย จากจำนวนสถานประกอบการอาหารทั้งหมด 20,166 ราย คิดเป็นร้อยละ 95.507 มีสถานประกอบการที่ปิดกิจการชั่วคราวจำนวน 906 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.493 ของจำนวนทั้งหมด ผลการดำเนินการร้อยละความสำเร็จในการส่งเสริมให้สถานประกอบการอาหารมีการพัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี เมื่อตัดจำนวนสถานประกอบการอาหารที่ปิดกิจการชั่วคราวฯ คิดเป็นร้อยละ 100 (ป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร มีอายุการรับรอง 1 ปี) - ร้อยละความสำเร็จในการดำเนินการตรวจอาหารปลอดภัยของสถานประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต (เป้าหมายร้อยละ 70) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 สถานประกอบการอาหารที่ไม่มีใบอนุญาตทั้งหมด 1,179 ราย ได้รับการตรวจคุณภาพอาหาร จำนวน 1,124 ราย คิดเป็นร้อยละ 95.335 - ร้อยละความสำเร็จของสถานประกอบการอาหารที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานครระดับดี มีการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) (เป้าหมายร้อยละ 20) ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 มีสถานประกอบการอาหารที่ผ่านการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระดับดี และมีบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Service) (ผ่านเกณฑ์ระดับดีมาก/ระดับเลิศ) จำนวน 8,683 ราย คิดเป็นร้อยละ 43.058 ของจำนวนสถานประกอบการอาหารที่ได้รับใบอนุญาต/หนังสือรับรองการแจ้งทั้งหมด -//-
๑.๖.๕ กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอาหารปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และสารปนเปื้อน | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอย ตลาด ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ท ตรวจวิเคราะห์โดยชุดทดสอบเบื้องต้น หาสารเคมีปนเปื้อนในอาหาร ได้แก่ ตรวจหา สารบอแรกซ์ สารฟอร์มาลิน สารฟอกขาว สารกันรา สีสังเคราะห์ กรดแร่อิสระในน้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง และสารโพลาร์ในน้ำมันทอดอาหาร โดยผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร ระหว่างเดือนตุลาคม - เดือนธันวาคม 2563 มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ทั้งสิ้น จำนวน 12,907 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน จำนวน 12,907 ตัวอย่าง (ร้อยละ 100)-//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอยจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี มินิมาร์ท/ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และร้านอาหาร ตรวจวิเคราะห์โดยชุดทดสอบเบื้องต้น หาสารเคมีปนเปื้อนในอาหาร ได้แก่ ตรวจหาสารบอแรกซ์ สารฟอร์มาลิน สารฟอกขาว สารกันรา สีสังเคราะห์ กรดแร่อิสระในน้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง และสารโพลาร์ในน้ำมันทอดซ้ำ โดยผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 - เดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ทั้งสิ้น จำนวน 31,331 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน จำนวน 31,331 ตัวอย่าง (ร้อยละ 100)-//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอยจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี มินิมาร์ท/ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และร้านอาหาร ตรวจวิเคราะห์โดยชุดทดสอบเบื้องต้น หาสารเคมีปนเปื้อนในอาหาร ได้แก่ ตรวจหาสารบอแรกซ์ สารฟอร์มาลิน สารฟอกขาว สารกันรา สีสังเคราะห์ กรดแร่อิสระในน้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง และสารโพลาร์ในน้ำมันทอดซ้ำ โดยผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 - เดือนพฤษภาคม 2564 มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ทั้งสิ้น จำนวน 67,582 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน จำนวน 67,582 ตัวอย่าง (ร้อยละ 100)-//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอยจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี มินิมาร์ท/ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และร้านอาหาร ตรวจวิเคราะห์โดยชุดทดสอบเบื้องต้น หาสารเคมีปนเปื้อนในอาหาร ได้แก่ ตรวจหาสารบอแรกซ์ สารฟอร์มาลิน สารฟอกขาว สารกันรา สีสังเคราะห์ กรดแร่อิสระในน้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง และสารโพลาร์ในน้ำมันทอดซ้ำ โดยผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 - เดือนสิงหาคม 2564 มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ทั้งสิ้น จำนวน 81,906 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน จำนวน 81,906 ตัวอย่าง (ร้อยละ 100)-//-
๑.๖.๕ กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอาหารปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และสารปนเปื้อน | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :95.00 ผลงาน :98.53 |
อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นซองประกวดราคาจ้างเหมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารทางห้องปฏิบัติการ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารพร้อมบริโภคในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอย ตลาด ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ท ส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในระบบทางเดินอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ Salmonella spp. , Staphylococcus aureus และ Vibrio cholerae ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแผน กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะจ้างเหมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารทางห้องปฏิบัติการ และขออนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการประกาศเชิญชวนลงเว็ปไซต์ของกรมบัญชีกลาง และยื่นซองประกวดราคาจ้างเหมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร-//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารพร้อมบริโภคในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอยจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี มินิมาร์ท/ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และร้านอาหาร ส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในระบบทางเดินอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ Salmonella spp. Staphylococcus aureus และ Vibrio cholerae โดยเริ่มดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 – 19 มีนาคม 2564 โดยผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ทั้งสิ้น จำนวน 258 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน จำนวน 255 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 98.84 -//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารพร้อมบริโภคในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอยจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี มินิมาร์ท/ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และร้านอาหาร ส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในระบบทางเดินอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ Salmonella spp. Staphylococcus aureus และ Vibrio cholerae โดยเริ่มดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 – 14 พฤษภาคม 2564 โดยผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ทั้งสิ้น จำนวน 1,831 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน จำนวน 1,804 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 98.53-//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารพร้อมบริโภคในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ แผงลอยจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี มินิมาร์ท/ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และร้านอาหาร ส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในระบบทางเดินอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ Salmonella spp. , Staphylococcus aureus และ Vibrio cholera โดยเริ่มดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 – 20 สิงหาคม 2564 โดยผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ทั้งสิ้น จำนวน 2,850 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน จำนวน 2,808 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 98.53-//-
๑.๖.๕ กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอาหารปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และสารปนเปื้อน | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
อยู่ระหว่างดำเนินการสุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ตามหลักเกณฑ์ของกรุงเทพมหานคร ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต อยู่ระหว่างดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการที่จำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2564 ที่เข้าร่วมโครงการควบคุมคุณภาพสินค้าของกรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2563 - 28 กุมภาพันธ์ 2564 กรณีที่ผู้บริโภคไม่พึงพอใจในคุณภาพของสินค้าในกระเช้าของขวัญปีใหม่สามารถนำมาแลกเปลี่ยนหรือคืนได้ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 -//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการที่จำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2564 ที่เข้าร่วมโครงการควบคุมคุณภาพสินค้าของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 – 15 มีนาคม 2564 กรณีที่ผู้บริโภคไม่พึงพอใจในคุณภาพของสินค้าในกระเช้าของขวัญปีใหม่สามารถนำมาแลกเปลี่ยนหรือคืนได้ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยผลดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการ จำนวนทั้งหมด 549 แห่ง จาก 50 สำนักงานเขต ไม่พบว่ามีการร้องเรียน หรือมีการนำสินค้าในกระเช้าของขวัญปีใหม่มาแลกเปลี่ยน/คืน -//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการที่จำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2564 ที่เข้าร่วมโครงการควบคุมคุณภาพสินค้าของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 – 15 มีนาคม 2564 กรณีที่ผู้บริโภคไม่พึงพอใจในคุณภาพของสินค้าในกระเช้าของขวัญปีใหม่สามารถนำมาแลกเปลี่ยนหรือคืนได้ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยผลดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการ จำนวนทั้งหมด 549 แห่ง จาก 50 สำนักงานเขต ไม่พบว่ามีการร้องเรียน หรือมีการนำสินค้าในกระเช้าของขวัญปีใหม่มาแลกเปลี่ยน/คืน -//-
ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการที่จำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2564 ที่เข้าร่วมโครงการควบคุมคุณภาพสินค้าของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 – 15 มีนาคม 2564 กรณีที่ผู้บริโภคไม่พึงพอใจในคุณภาพของสินค้าในกระเช้าของขวัญปีใหม่สามารถนำมาแลกเปลี่ยนหรือคืนได้ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยผลดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการ จำนวนทั้งหมด 549 แห่ง จาก 50 สำนักงานเขต ไม่พบว่ามีการร้องเรียน หรือมีการนำสินค้าในกระเช้าของขวัญปีใหม่มาแลกเปลี่ยน/คืน -//-
๑.๖.๕ กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอาหารปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และสารปนเปื้อน | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :80.00 ผลงาน :89.83 |
- กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารของกรุงเทพมหานคร ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหารสังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร จำนวน 198 คน จัดกิจกรรมฯ เป็นรายกลุ่มเขต จำนวน 6 กลุ่มเขต กลุ่มเขตละ 1 ครั้งๆ ละ 1 วัน กำหนดการฝึกอบรมเดือนมีนาคม 2564 การดำเนินการฝึกอบรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน ซึ่งขณะนี้ผลการดำเนินงานอยู่ระหว่างขั้นตอนที่ 1 ได้แก่ การดำเนินการจัดทำหลักสูตร กำหนดการฝึกอบรม กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ รวมไปถึงการจัดทำแผนการดำเนินกิจกรรมฯ - จัดฝึกอบรมหลักสูตรวิชาการด้านสุขาภิบาลอาหาร โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 126 คน ประกอบด้วยข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญประเภทวิชาการ ตำแหน่งนักวิชาการสุขาภิบาล ระดับปฏิบัติการ-ชำนาญการพิเศษ และประเภททั่วไป ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุข ระดับปฏิบัติงาน-ชำนาญงาน สังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย การดำเนินการฝึกอบรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน จัดอบรมจำนวน 1 รุ่น รูปแบบการฝึกอบรมแบบไป-กลับ เป็นเวลา 2 วัน กำหนดการฝึกอบรมเดือนมีนาคม 2564 -//-
- กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารของกรุงเทพมหานครเป็นรายกลุ่มเขต โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 189 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร สังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร ในเดือนมีนาคม 2564 ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นรูปแบบออนไลน์รายกลุ่มเขต กลุ่มเขตละ 1 ครั้งๆละ 1 วัน ภายในเดือน เมษายน 2564 โดยให้เจ้าหน้าที่เรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (cisco webex) และประเมินความรู้ก่อนและหลังการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (google form) จำนวน 30 ข้อ ต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบความรู้หลังการเข้าร่วมกิจกรรมฯร้อยละ 80 ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำวีดิทัศน์ “การตรวจคุณภาพอาหาร”จำนวน 15 เรื่อง พร้อมทั้งนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกองสุขาภิบาลอาหาร เพื่อเป็นสื่อการสอนออนไลน์สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพในงานด้านการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารด้วยชุดทดสอบเบื้องต้นได้อย่าง มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ในการดำเนินการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนที่ 1 ได้แก่ การดำเนินการจัดทำสื่อวีดิทัศน์ ชุด “การตรวจคุณภาพอาหาร” เพื่อเป็นสื่อการสอนออนไลน์สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร - จัดฝึกอบรมหลักสูตรวิชาการด้านสุขาภิบาลอาหาร โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 126 คน ประกอบด้วยข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญประเภทวิชาการ ตำแหน่งนักวิชาการสุขาภิบาล ระดับปฏิบัติการ-ชำนาญการพิเศษ และประเภททั่วไป ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุข ระดับปฏิบัติงาน-ชำนาญงาน สังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย การดำเนินการฝึกอบรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน จัดอบรมจำนวน 1 รุ่น รูปแบบการฝึกอบรมแบบไป-กลับ เป็นเวลา 2 วัน กำหนดการฝึกอบรมเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งได้ดำเนินการในขั้นตอนการเตรียมการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ ได้แก่ ประสานงานการดำเนินงานกับผู้เกี่ยวข้อง -//-
- กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารของกรุงเทพมหานครเป็นรายกลุ่มเขต โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 189 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร สังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร ในเดือนมีนาคม 2554 ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นรูปแบบออนไลน์รายกลุ่มเขต กลุ่มเขตละ 1 ครั้งๆละ 1 วัน โดยให้เจ้าหน้าที่เรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (google meet) และประเมินความรู้ก่อนและหลังการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (google form) จำนวน 30 ข้อ ต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบความรู้หลังการเข้าร่วมกิจกรรมฯร้อยละ 80 ในการดำเนินการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน กองสุขาภิบาลอาหารได้จัดทำวีดิทัศน์ “การตรวจคุณภาพอาหาร”จำนวน 15 เรื่อง เพื่อเป็นสื่อออนไลน์สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร พร้อมทั้งนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกองสุขาภิบาลอาหารเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพในงานด้านการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารด้วยชุดทดสอบเบื้องต้นได้อย่าง มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน และได้จัดกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารตามโครงการกรุงเทพฯ เมืองอาหารปลอดภัยในรูปแบบออนไลน์(google meet) กลุ่มเขตละ 1วัน กลุ่มเป้าหมายคือ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านอาหารเขตละ 3 คน(ข้าราชการและลูกจ้าง) และเจ้าหน้าที่ประจำรถ mobile กลุ่มเขตละ 2 คน(เฉพาะเขตที่มีรถmobile) ระหว่างวันที่ 8 -17 มิถุนายน 2564 ทั้งหมด 6 กลุ่มเขตเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ ประมวลผล จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานเสนอผู้บริหาร - กองสุขาภิบาลอาหารจัดฝึกอบรมหลักสูตรวิชาการด้านสุขาภิบาลอาหาร โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 126 คน ประกอบด้วยข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญประเภทวิชาการ ตำแหน่งนักวิชาการสุขาภิบาล ระดับปฏิบัติการ-ชำนาญการพิเศษ และประเภททั่วไป ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุข ระดับปฏิบัติงาน-ชำนาญงาน สังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย การดำเนินการฝึกอบรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน จัดอบรมจำนวน 1 รุ่น รูปแบบการฝึกอบรมแบบไป-กลับ เป็นเวลา 1 วัน กำหนดการฝึกอบรมเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งได้ดำเนินการในขั้นตอนการเตรียมการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ ได้แก่ ได้รับอนุมัติให้ข้าราชการกรุงเทพมหานครเข้าร่วมโครงการเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างจัดทำเอกสารวิชาการ/เอกสารประกอบการฝึกอบรมคำชี้แจงรายละเอียดผลการปฏิบัติราชการ-//-
-กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารของกรุงเทพมหานครเป็นรายกลุ่มเขต โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 189 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร สังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร ในเดือนมีนาคม 2554 ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นรูปแบบออนไลน์รายกลุ่มเขต กลุ่มเขตละ 1 ครั้งๆละ 1 วัน โดยให้เจ้าหน้าที่เรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (google meet) และประเมินความรู้ก่อนและหลังการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (google form) จำนวน 30 ข้อ ต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบความรู้หลังการเข้าร่วมกิจกรรมฯร้อยละ 80 ในการดำเนินการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน กองสุขาภิบาลอาหารได้จัดทำวีดิทัศน์ “การตรวจคุณภาพอาหาร”จำนวน 15 เรื่อง เพื่อเป็นสื่อออนไลน์สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการสุขาภิบาลอาหาร พร้อมทั้งนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกองสุขาภิบาลอาหารเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพในงานด้านการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารด้วยชุดทดสอบเบื้องต้นได้อย่าง มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน และได้จัดกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารตามโครงการกรุงเทพฯ เมืองอาหารปลอดภัยในรูปแบบออนไลน์(google meet) กลุ่มเขตละ 1วัน กลุ่มเป้าหมายคือ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านอาหารเขตละ 3 คน(ข้าราชการและลูกจ้าง) และเจ้าหน้าที่ประจำรถ mobile กลุ่มเขตละ 2 คน(เฉพาะเขตที่มีรถmobile) ระหว่างวันที่ 8 -17 มิถุนายน 2564 ทั้งหมด 6 กลุ่มเขตเรียบร้อยแล้ว โดยผลดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารของกรุงเทพมหานครเป็นรายกลุ่มเขต มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนทั้งสิ้น 177 คน ผ่านเกณฑ์การทดสอบ จำนวน 159 คน (ร้อยละ 89.83) และไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน 18 คน (ร้อยละ 10.17) ในกรณีไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบ กองสุขาภิบาลอาหารได้ดำเนินการให้คำแนะนำและความรู้เพิ่มเติม พร้อมทั้งให้ทำแบบทดสอบอีกครั้ง จนกระทั่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมผ่านการทดสอบความรู้ทั้งหมด - กองสุขาภิบาลอาหารจัดฝึกอบรมหลักสูตรวิชาการด้านสุขาภิบาลอาหาร โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน ๑๒๖ คน ประกอบด้วยข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญประเภทวิชาการ ตำแหน่งนักวิชาการสุขาภิบาล ระดับปฏิบัติการ-ชำนาญการพิเศษ และประเภททั่วไป ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุข ระดับปฏิบัติงาน-ชำนาญงาน สังกัดฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย การดำเนินการฝึกอบรม ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ ขั้นตอนการดำเนินการ และขั้นตอนการประเมินผลและรายงาน จัดอบรมจำนวน 1 รุ่น รูปแบบการฝึกอบรมแบบไป-กลับ เป็นเวลา 2 วัน กำหนดการฝึกอบรมเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งได้ดำเนินการในขั้นตอนการเตรียมการและขั้นตอนการดำเนินการ ได้แก่ ได้รับอนุมัติให้ข้าราชการกรุงเทพมหานครเข้าร่วมโครงการเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงยกเลิกโครงการฯ และคืนเงินงบประมาณ รายละเอียดตามหนังสือที่ กท 0714/705 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 และหนังสือที่ กงต.150/64 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564
๓.๑.๓ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ด | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :85.00 ผลงาน :79.38 |
-ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการและงบประมาณ เพื่อดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ส่วนการถ่ายโอนข้อมูลจาก สปสช. อยู่ระหว่างการถ่ายโอนมา eHHC-BKK -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 151 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 83 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 193 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.23
-อนุมัติโครงการและงบประมาณเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการประสานศูนย์บริการสาธารณสุขเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและขอรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 152 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 84 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 193 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.75
-กิจกรรมที่ 1 การฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาความรู้และทักษะการใช้โปรแกรมการส่งต่อผู้ป่วยและผู้สูงอายุต่อเนื่องที่บ้าน (BMA Home Ward Referral Program) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 จึงได้เลื่อนการจัดกิจกรรมไปออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 152 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 84 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 193 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.75
-ยกเลิกโครงการเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 154 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 85 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 194 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 79.38
๓.๑.๒ มีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :85.00 ผลงาน :79.38 |
-ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการและงบประมาณ เพื่อดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ส่วนการถ่ายโอนข้อมูลจาก สปสช. อยู่ระหว่างการถ่ายโอนมา eHHC-BKK -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 151 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 83 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 193 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.23
-อนุมัติโครงการและงบประมาณเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการประสานศูนย์บริการสาธารณสุขเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและขอรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 152 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 84 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 193 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.75
-กิจกรรมที่ 1 การฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาความรู้และทักษะการใช้โปรแกรมการส่งต่อผู้ป่วยและผู้สูงอายุต่อเนื่องที่บ้าน (BMA Home Ward Referral Program) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 จึงได้เลื่อนการจัดกิจกรรมไปออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 152 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 84 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 193 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.75
-ยกเลิกโครงการเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในภาคีเครือข่าย สามารถเข้าถึงบริการและประสานงานผ่านศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน จำนวน 154 แห่ง (ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง และโรงพยาบาลภาคีเครือข่าย 85 แห่ง) จากจำนวนศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายทั้งหมด 194 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 79.38
๓.๑.๓ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ด | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :60.00 ผลงาน :78.87 |
ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน และติดตามผลการดำเนินงานของพื้นที่
ติดตามการดำเนินงานโครงการฯของศูนย์บริการสาธารณสุข
ติดตามการดำเนินงานโครงการฯ และรวบรวมผลการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้เข้าร่วมโครงการฯของศูนย์บริการสาธารณสุข
การดำเนินงานในชุมชนของศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 69 แห่ง (69 ชุมชน) มีจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้นจำนวน 2,391 คน โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการมีความสามารถในการทรงตัวดีขึ้น จำนวน 1,886 คน คิดเป็นร้อยละ 78.87
๓.๑.๒ มีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :60.00 ผลงาน :78.87 |
ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน และติดตามผลการดำเนินงานของพื้นที่
ติดตามการดำเนินงานโครงการฯของศูนย์บริการสาธารณสุข
ติดตามการดำเนินงานโครงการฯ และรวบรวมผลการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้เข้าร่วมโครงการฯของศูนย์บริการสาธารณสุข
การดำเนินงานในชุมชนของศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 69 แห่ง (69 ชุมชน) มีจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้นจำนวน 2,391 คน โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการมีความสามารถในการทรงตัวดีขึ้น จำนวน 1,886 คน คิดเป็นร้อยละ 78.87
๓.๑.๓ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ด | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :94.00 ผลงาน :85.06 |
อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการและงบประมาณ (ก่อนหน้านี้ได้เสนอขออนุมัติโครงการ แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการปรับกิจกรรมให้เหมาะกับสถานการณ์ และเสนออนุมัติโครงการใหม่) จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 5489 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 4946 ราย คิดเป็นร้อยละ 89.50
-อนุมัติโครงการและงบประมาณเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการประสานศูนย์บริการสาธารณสุขเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและขอรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 14,803 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 13,917 ราย คิดเป็นร้อยละ 94.01
-กิจกรรมที่ 1 การฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาความรู้และทักษะการใช้โปรแกรมการส่งต่อผู้ป่วยและผู้สูงอายุต่อเนื่องที่บ้าน (BMA Home Ward Referral Program) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 จึงได้เลื่อนการจัดกิจกรรมไปออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 18,611 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 14,883 ราย คิดเป็นร้อยละ 79.96 (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 – 15 มิ.ย.64)
-ยกเลิกโครงการเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 --จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 14,112 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 12,004 ราย คิดเป็นร้อยละ 85.06 (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 – 10 ก.ย.64 และคิดเฉพาะจำนวนผู้สูงอายุ ตามการขออุธรณ์ตัวชี้วัดเจรจาตกลงของสำนักอนามัย)
๓.๑.๒ มีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :94.00 ผลงาน :85.06 |
อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการและงบประมาณ (ก่อนหน้านี้ได้เสนอขออนุมัติโครงการ แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการปรับกิจกรรมให้เหมาะกับสถานการณ์ และเสนออนุมัติโครงการใหม่) จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 5489 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 4946 ราย คิดเป็นร้อยละ 89.50
-อนุมัติโครงการและงบประมาณเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการประสานศูนย์บริการสาธารณสุขเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและขอรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 14,803 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 13,917 ราย คิดเป็นร้อยละ 94.01
-กิจกรรมที่ 1 การฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาความรู้และทักษะการใช้โปรแกรมการส่งต่อผู้ป่วยและผู้สูงอายุต่อเนื่องที่บ้าน (BMA Home Ward Referral Program) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 จึงได้เลื่อนการจัดกิจกรรมไปออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น -จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 18,611 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 14,883 ราย คิดเป็นร้อยละ 79.96 (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 – 15 มิ.ย.64)
-ยกเลิกโครงการเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 --จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้รับการส่งต่อจาก BMA Home Ward Referral มีจำนวน 14,112 ราย ได้รับการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้านตามเกณฑ์ 12,004 ราย คิดเป็นร้อยละ 85.06 (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 – 10 ก.ย.64 และคิดเฉพาะจำนวนผู้สูงอายุ ตามการขออุธรณ์ตัวชี้วัดเจรจาตกลงของสำนักอนามัย)
๓.๑.๓ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ด | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
กองการพยาบาลสาธารณสุข ได้รับการอนุมัติโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ประจำปีงบประมาณ 2564 ได้เสนอของบประมาณ และอยู่ระหว่างการดำเนินงาน ดังนี้ 1. จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน 2. ประชาสัมพันธ์และรวบรวมรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย ในกิจกรรมที่ 1 การอบรมสร้างแกนนำผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการอบรมจากศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง รอบที่ 3 และกิจกรรมที่ 2 การประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสุขภาพ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ (Seamless Care) เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม จากศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ มีจำนวน 226 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ จำนวน 224 ราย คิดเป็นร้อยละ 99.11
ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ จำนวน 499 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ (Caregiver) ที่ผ่านการอบรมผู้ดูแลฯ (Caregiver) ทั้งหมด จำนวน 499 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 (ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 – มีนาคม 2564) ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward สะสมทั้งหมด จำนวน 13,555 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ(Caregiver)จากทั้งหมด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ได้ดำเนินการเลื่อนการจัดกิจกรรมจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น ดังนี้ กิจกรรมที่ 1 การอบรมสร้างแกนนำผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน กิจกรรมที่ 2 การประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสุขภาพ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ (Seamless Care) เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กิจกรรมที่ 3 การประชุมเชิงปฏิบัติการส่งต่อและให้คำปรึกษาการทำงานร่วมกัน ปัญหาและอุปสรรคในการจัดทำเส้นทางการให้คำปรึกษา เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ส่งต่อจากเครือข่าย กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ดำเนินการเลื่อนตารางออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น
ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ จำนวน 627 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ (Caregiver) ที่ผ่านการอบรมผู้ดูแลฯ (Caregiver) ทั้งหมด จำนวน 627 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 (ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 – มิถุนายน 2564) ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward สะสมทั้งหมด จำนวน 13,419 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ(Caregiver)จากทั้งหมด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ดำเนินการดังนี้ กิจกรรมที่ 1 การอบรมสร้างแกนนำผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ได้รับอนุมัติยกเลิกการจัดกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมที่ 2 การประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสุขภาพ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ (Seamless Care) เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับอนุมัติยกเลิกการจัดกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมที่ 3 การประชุมเชิงปฏิบัติการส่งต่อและให้คำปรึกษาการทำงานร่วมกัน ปัญหาและอุปสรรคในการจัดทำเส้นทางการให้คำปรึกษาเพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ส่งต่อจากเครือข่าย ได้รับอนุมัติยกเลิกการจัดกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมที่ 4 การประชุมชี้แจงการดำเนินงานของผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน อยู่ระหว่างการดำเนินการ กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) เลื่อนตารางการตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น กิจกรรมที่ 6 สนับสนุนผู้ดูแล ให้สามารถดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยู่ระหว่างการดำเนินการ กิจกรรมที่ 7 สนับสนุนชุดอุปกรณ์การดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ จำนวน 645 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ (Caregiver) ที่ผ่านการอบรมผู้ดูแลฯ (Caregiver) ทั้งหมด จำนวน 645 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 (ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward สะสมทั้งหมด จำนวน 13,339 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ(Caregiver)จากทั้งหมด ดำเนินการโครงการแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว
๓.๑.๒ มีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
กองการพยาบาลสาธารณสุข ได้รับการอนุมัติโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ประจำปีงบประมาณ 2564 ได้เสนอของบประมาณ และอยู่ระหว่างการดำเนินงาน ดังนี้ 1. จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน 2. ประชาสัมพันธ์และรวบรวมรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย ในกิจกรรมที่ 1 การอบรมสร้างแกนนำผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการอบรมจากศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง รอบที่ 3 และกิจกรรมที่ 2 การประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสุขภาพ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ (Seamless Care) เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม จากศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ มีจำนวน 226 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ จำนวน 224 ราย คิดเป็นร้อยละ 99.11
ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ จำนวน 499 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ (Caregiver) ที่ผ่านการอบรมผู้ดูแลฯ (Caregiver) ทั้งหมด จำนวน 499 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 (ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 – มีนาคม 2564) ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward สะสมทั้งหมด จำนวน 13,555 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ(Caregiver)จากทั้งหมด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ได้ดำเนินการเลื่อนการจัดกิจกรรมจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น ดังนี้ กิจกรรมที่ 1 การอบรมสร้างแกนนำผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน กิจกรรมที่ 2 การประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสุขภาพ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ (Seamless Care) เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กิจกรรมที่ 3 การประชุมเชิงปฏิบัติการส่งต่อและให้คำปรึกษาการทำงานร่วมกัน ปัญหาและอุปสรรคในการจัดทำเส้นทางการให้คำปรึกษา เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ส่งต่อจากเครือข่าย กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ดำเนินการเลื่อนตารางออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น
ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ จำนวน 627 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ (Caregiver) ที่ผ่านการอบรมผู้ดูแลฯ (Caregiver) ทั้งหมด จำนวน 627 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 (ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 – มิถุนายน 2564) ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward สะสมทั้งหมด จำนวน 13,419 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ(Caregiver)จากทั้งหมด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ดำเนินการดังนี้ กิจกรรมที่ 1 การอบรมสร้างแกนนำผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ได้รับอนุมัติยกเลิกการจัดกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมที่ 2 การประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสุขภาพ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ (Seamless Care) เพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับอนุมัติยกเลิกการจัดกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมที่ 3 การประชุมเชิงปฏิบัติการส่งต่อและให้คำปรึกษาการทำงานร่วมกัน ปัญหาและอุปสรรคในการจัดทำเส้นทางการให้คำปรึกษาเพื่อการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ส่งต่อจากเครือข่าย ได้รับอนุมัติยกเลิกการจัดกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมที่ 4 การประชุมชี้แจงการดำเนินงานของผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน อยู่ระหว่างการดำเนินการ กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) เลื่อนตารางการตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น กิจกรรมที่ 6 สนับสนุนผู้ดูแล ให้สามารถดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยู่ระหว่างการดำเนินการ กิจกรรมที่ 7 สนับสนุนชุดอุปกรณ์การดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward รายใหม่ จำนวน 645 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ (Caregiver) ที่ผ่านการอบรมผู้ดูแลฯ (Caregiver) ทั้งหมด จำนวน 645 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 (ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยและผู้สูงอายุใน Home Ward สะสมทั้งหมด จำนวน 13,339 ราย ได้รับการเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากผู้ดูแลฯ(Caregiver)จากทั้งหมด ดำเนินการโครงการแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว
๓.๑.๓ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ด | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ในโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ได้ดำเนินการจ้างบุคคลภายนอกตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการจ้างเหมาพิมพ์เอกสารการประเมิน ติดตาม กำกับงานการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านสำหรับผู้ตรวจการพยาบาล และขณะนี้ได้เตรียมกำหนดตารางแผนงานออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโรควิค 19 จึงจะเริ่มออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุขในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ในโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ได้ดำเนินการจ้างบุคคลภายนอกตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ได้เตรียมกำหนดตารางแผนงานออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโรควิค 19 จึงจะเริ่มออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย ในเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป
มีผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านที่ปฏิบัติงานจริง จำนวน 3,362 คน ได้รับการติดตาม กำกับ ดูแลฯ และจำนวนผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลฯ ทั้งหมด จำนวน 3,362 คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ในโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ ได้เลื่อนตารางการตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น
มีผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านที่ปฏิบัติงานจริง จำนวน 3,362 คน ได้รับการติดตาม กำกับ ดูแลฯ และจำนวนผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลฯ ทั้งหมด จำนวน 3,362 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ทำให้มีความยากลำบากในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม
๓.๑.๒ มีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :100.00 |
กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ในโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ได้ดำเนินการจ้างบุคคลภายนอกตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการจ้างเหมาพิมพ์เอกสารการประเมิน ติดตาม กำกับงานการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านสำหรับผู้ตรวจการพยาบาล และขณะนี้ได้เตรียมกำหนดตารางแผนงานออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโรควิค 19 จึงจะเริ่มออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุขในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ในโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ได้ดำเนินการจ้างบุคคลภายนอกตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ได้เตรียมกำหนดตารางแผนงานออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโรควิค 19 จึงจะเริ่มออกตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย ในเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป
มีผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านที่ปฏิบัติงานจริง จำนวน 3,362 คน ได้รับการติดตาม กำกับ ดูแลฯ และจำนวนผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลฯ ทั้งหมด จำนวน 3,362 คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 5 การพัฒนารูปแบบผู้ตรวจการพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Supervise Nurse Home ward) ในโครงการ การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ ได้เลื่อนตารางการตรวจเยี่ยมศูนย์บริการสาธารณสุข จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จะดีขึ้น
มีผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้านที่ปฏิบัติงานจริง จำนวน 3,362 คน ได้รับการติดตาม กำกับ ดูแลฯ และจำนวนผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลฯ ทั้งหมด จำนวน 3,362 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ทำให้มีความยากลำบากในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม
๓.๑.๓ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ด | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :90.00 ผลงาน :90.20 |
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 4. ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้บริษัทผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนิติกรตรวจร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง 5. ดำเนินการจัดเตรียมขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ 2. อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ COVID-19 เพื่อปรับแผนดำเนินการ กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน 4. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-28 ก.พ.2564 5. อยู่ระหว่างสรุปรายงานครั้งที่ 1
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 4. ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้บริษัทผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนิติกรตรวจร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง 5. ดำเนินการจัดเตรียมขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 6. รออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 7. เตรียมการตรวจการจัดซื้อจัดจ้างและรอการขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ 2. อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ COVID-19 เพื่อปรับแผนดำเนินการ 3. อนุมัติยกเลิกโครงการฯ อนุมัติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ตามหนังสือที่ กท 0702/1292 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564 กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน 4. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-28 ก.พ.2564 5. อยู่ระหว่างสรุปรายงานครั้งที่ 1 6. สรุปการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-30 มี.ค.2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 49 ราย 7. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.2564-30 มิ.ย.2564
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 4. ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้บริษัทผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนิติกรตรวจร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง 5. ดำเนินการจัดเตรียมขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 6. รออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 7. เตรียมการตรวจการจัดซื้อจัดจ้างและรอการขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 8. ขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์สังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีลักษณะเป็นการจำหน่าย 9. บริษัทตู่สัญญานัดคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมาตรวจรับสินค้า และส่งมอบได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวฯ 10. นักสังคมสงเคราะห์ 69 ศูนย์บริการสาธารณสุข ได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวฯ มีจำนวนผู้ด้อยโอกาสที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมดของศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 732 คน และแจกจ่ายประชาชน 660 คน เรียบร้อยแล้ว ตามบัญชีจัดสรรอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวฯ ปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 90.20 ของจำนวนผู้ประสบปัญหาและขอรับความช่วยเหลืออุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 11. สำรวจความพึงพอใจของผู้ได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวตามโครงการฯ พบว่า ร้อยละ 100 ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ทีี่ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหวที่ได้รับการส่งเคราะห์อุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว มีความพึงพอใจในการรับบริการและอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวในระดับมากขึ้นไป 12. มีผู้ได้รับ/ขอยืมอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว ได้แก่ เครื่องดูดเสมหะ รถเข็นผู้ป่วยชนิดนั่ง เตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยเดินชนิด 4 ขา (Pick up walker) ไม้เท้าชนิด 3 ปุ่ม หรือ 4 ปุ่ม และผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ จากมูลนิธิส่งเสริมและสนับสนุนกิจการของสำนักอนามัย จำนวน 6 คน โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน (ยกเลิกโครงการ) 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ 2. อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ COVID-19 เพื่อปรับแผนดำเนินการ 3. อนุมัติยกเลิกโครงการฯ อนุมัติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ตามหนังสือที่ กท 0702/1292 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564 กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน 4. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-28 ก.พ.2564 5. อยู่ระหว่างสรุปรายงานครั้งที่ 1 6. สรุปการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-30 มี.ค.2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 49 ราย 7. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.2564-7 ก.ย.2564 มีผู้ประสบปัญหาและได้รับการช่วยเหลือจำนวน 22 คน 8. สรุปการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563-7 กันยายน 2564 มีผู้ประสบปัญหาและได้รับการช่วยเหลือ จำนวนทั้งสิ้น 71 ราย คิดเป็นร้อยละ 100
๓.๑.๒ มีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :90.00 ผลงาน :90.20 |
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 4. ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้บริษัทผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนิติกรตรวจร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง 5. ดำเนินการจัดเตรียมขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ 2. อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ COVID-19 เพื่อปรับแผนดำเนินการ กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน 4. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-28 ก.พ.2564 5. อยู่ระหว่างสรุปรายงานครั้งที่ 1
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 4. ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้บริษัทผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนิติกรตรวจร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง 5. ดำเนินการจัดเตรียมขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 6. รออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 7. เตรียมการตรวจการจัดซื้อจัดจ้างและรอการขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ 2. อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ COVID-19 เพื่อปรับแผนดำเนินการ 3. อนุมัติยกเลิกโครงการฯ อนุมัติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ตามหนังสือที่ กท 0702/1292 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564 กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน 4. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-28 ก.พ.2564 5. อยู่ระหว่างสรุปรายงานครั้งที่ 1 6. สรุปการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-30 มี.ค.2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 49 ราย 7. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.2564-30 มิ.ย.2564
โครงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวแก่ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว โดย 1. วางแผนการปฏิบัติงานและจัดประชุมชี้แจงนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ค้นหา คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความจำเป็น และจัดทำทะเบียนผู้ขอรับความช่วยเหลือ 3. นักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ส่งรายชื่อผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 4. ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้บริษัทผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนิติกรตรวจร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง 5. ดำเนินการจัดเตรียมขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 6. รออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 7. เตรียมการตรวจการจัดซื้อจัดจ้างและรอการขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีลักษณะจำหน่าย 8. ขออนุมัติโอนกรรมสิทธิ์สังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีลักษณะเป็นการจำหน่าย 9. บริษัทตู่สัญญานัดคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมาตรวจรับสินค้า และส่งมอบได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวฯ 10. นักสังคมสงเคราะห์ 69 ศูนย์บริการสาธารณสุข ได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวฯ มีจำนวนผู้ด้อยโอกาสที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมดของศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 732 คน และแจกจ่ายประชาชน 660 คน เรียบร้อยแล้ว ตามบัญชีจัดสรรอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวฯ ปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 90.20 ของจำนวนผู้ประสบปัญหาและขอรับความช่วยเหลืออุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว 11. สำรวจความพึงพอใจของผู้ได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวตามโครงการฯ พบว่า ร้อยละ 100 ของคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ทีี่ประสบปัญหาทางการเคลื่อนไหวที่ได้รับการส่งเคราะห์อุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว มีความพึงพอใจในการรับบริการและอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหวในระดับมากขึ้นไป 12. มีผู้ได้รับ/ขอยืมอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการเคลื่อนไหว ได้แก่ เครื่องดูดเสมหะ รถเข็นผู้ป่วยชนิดนั่ง เตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยเดินชนิด 4 ขา (Pick up walker) ไม้เท้าชนิด 3 ปุ่ม หรือ 4 ปุ่ม และผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ จากมูลนิธิส่งเสริมและสนับสนุนกิจการของสำนักอนามัย จำนวน 6 คน โครงการเสวนา มิติสุขภาพกับสถานการณ์ครอบครัวในปัจจุบัน (ยกเลิกโครงการ) 1. วางแผนการดำเนินงานและเตรียมการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบและขออนุมัติงบประมาณ 2. อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ COVID-19 เพื่อปรับแผนดำเนินการ 3. อนุมัติยกเลิกโครงการฯ อนุมัติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ตามหนังสือที่ กท 0702/1292 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564 กิจกรรมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำและ/หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 1. วางแผนการดำเนินงาน 2. จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง 3. ปรับปรุงรายงานการดำเนินงาน 4. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-28 ก.พ.2564 5. อยู่ระหว่างสรุปรายงานครั้งที่ 1 6. สรุปการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2563-30 มี.ค.2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 49 ราย 7. ประสานเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.2564-7 ก.ย.2564 มีผู้ประสบปัญหาและได้รับการช่วยเหลือจำนวน 22 คน 8. สรุปการช่วยเหลือระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563-7 กันยายน 2564 มีผู้ประสบปัญหาและได้รับการช่วยเหลือ จำนวนทั้งสิ้น 71 ราย คิดเป็นร้อยละ 100
๕.๓.๑ ลดบทบาทส่วนกลางลงเหลือภารกิจหลักเท่าที่ต้องทำเท่าที่จำเป็นและให้อำานาจในการกำหนดนโ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :0.00 |
อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ
เตรียมการจัดการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จึงเลื่อนการจัดอบรมออกไป
เตรียมการจัดการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต
ขอปรับเปลี่ยนคำนิยามตามตัวชี้วัดมาตรการ ร้อยละความสำเร็จของการดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับการถ่ายโอนตามกฎหมายกระจายอำนาจ เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายโอนภารกิจตามกฎหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรม หมายความว่า สำนักงานเขตที่ได้รับการถ่ายโอนภารกิจในการกำกับดูแลโรงงานจำพวกที่ 2 ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ได้ดำเนินการมอบแฟ้มถ่ายโอนภารกิจโรงงานฯ ให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต จำนวน 317 ราย และยกเลิกการดำเนินโครงการพัฒนาสมรรถนะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากกิจกรรมหลักของโครงการฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่หรือผู้เข้ารับการอบรมลงพื้นที่ไปยังสถานประกอบการ ดำเนินการตรวจสอบเพื่อถอดบทเรียน รวมกลุ่มประชุมหารือถอดบทเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งในเรื่องนี้ผู้อำนวยการสำนักอนามัยได้อนุมัติยกเลิกโครงการฯ เป็นที่เรียบร้อย (รายละเอียดตามหนังสือที่ กท 0704/630 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2564)
๗.๒.๑ กรุงเทพมหานครมีระบบการติดตามและรายงานความก้าวหน้าผลการดำาเนินงานตามแผนพัฒนากรุงเทพ | |
![]() |
หน่วยนับ :ร้อยละ เป้าหมาย :100.00 ผลงาน :80.64 |
มีโครงการงานประจำทั้งสิ้น 31 โครงการ กำลังดำเนินการ จำนวน 30 โครงการ แล้วเสร็จ จำนวน 1 โครงการ
มีโครงการงานประจำทังสิ้น 31 โครงการ กำลังดำเนินการ จำนวน 29 โครงการ แล้วเสร็จ จำนวน 2 โครงการ
มีโครงการงานประจำทังสิ้น 31 โครงการ กำลังดำเนินการ จำนวน 25 โครงการ แล้วเสร็จ จำนวน 6 โครงการ
โครงการประจำพื้นฐาน ทั้งหมด 31 โครงการ 1. โครงการจัดทำวารสารสุขภาพสำนักอนามัย ดำเนินการแล้วเสร็จ 2. เงินสมทบกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานคร ดำเนินการแล้วเสร็จ 3. โครงการยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการบริหารแผนงาน โครงการและการติดตามประเมินผลแผนสำนักอนามัย ดำเนินการแล้วเสร็จ 4. โครงการสัมมนาเชิงปฎิบัติการการพัฒนาเสริมสร้างองค์ความรู้การบริการสุขภาพตามแนวชีวิตวิถีใหม่ ดำเนินการแล้วเสร็จ 5. โครงการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร ระยะที่ 3 ยกเลิกโครงการ 6. โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2561-2564) ดำเนินการแล้วเสร็จ 7. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารสุขภาวะเขตเมือง รุ่นที่ 3 ขอขยายเวลาดำเนินโครงการ 8. โครงการพัฒนาศักยภาพนักสังคมสงเคราะห์มุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพ ดำเนินการแล้วเสร็จ 9. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารการพยาบาล (ด้านบริหารอนามัย) รุ่นที่ 21 ดำเนินการแล้วเสร็จ 10. โครงการพัฒนาศักยภาพพยาบาลผู้จัดการสุขภาพในการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุต่อเนื่องที่บ้าน (Nurse Care Manager in Home Ward) ดำเนินการแล้วเสร็จ 11. โครงการฝึกอบรมปฐมนิเทศบุคลากรสายงานพยาบาลเพื่อสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติในการพยาบาลสาธารณสุขสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ดำเนินการแล้วเสร็จ 12. โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสายงานเภสัชกรรม ดำเนินการแล้วเสร็จ 13. โครงการอบรมเพิ่มพูนความรู้ด้านทันตกรรม ดำเนินการแล้วเสร็จ 14. โครงการสัมมนาและดูงานการบริการสาธารณสุข ยกเลิกโครงการ 15. โครงการฝึกอบรมการใช้งานระบบสารสนเทศศูนย์บริการสาธารณสุข (HCIS) ดำเนินการแล้วเสร็จ 16. โครงการติดตั้งระบบเครือข่ายภายในอาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 3 บางชื่อ ดำเนินการแล้วเสร็จ 17. โครงการติดตั้งระบบเครือข่ายภายในอาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 34โพธิ์ศรี ดำเนินการแล้วเสร็จ 18. โครงการติดตั้งระบบเครือข่ายภายในอาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 58 ล้อม - พิมเสน ฟักอุดม ขอขยายเวลาในการดำเนินโครงการ 19. โครงการคนกรุงเทพฯรักฟัน (เพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุฟันดี) ดำเนินการแล้วเสร็จ 20. โครงการอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ร่วมใจขจัดภัยสุขภาพ ดำเนินการแล้วเสร็จ 21. โครงการอบรมเตรียมความพร้อมในการเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ยกเลิกโครงการ 22. โครงการส่งเสริมการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายในสถานประกอบการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 23. โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานชันสูตรสาธารณสุข และศูนย์บริการสาธารณสุข 7 บุญมี ปุรุราชรังสรรค์ (ต่อเนื่อง 2562-2565) ดำเนินการแล้วเสร็จ 24. โครงการก่อสร้างศูนย์บริการสาธารณสุข 30 (แห่งใหม่) (ต่อเนื่อง 2562-2565) กันเงินเหลี่ยมปี 25. โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 39 ราษฎร์บูรณะ (ต่อเนื่อง 2562-2565) ดำเนินแล้วเสร็จ 26. โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 47 คลองขวาง (ต่อเนื่อง 2562-2565) ดำเนินแล้วเสร็จ 27. โครงการปรับปรุงศูนย์บริการสาธารณสุข 67 ทวีวัฒนา ดำเนินแล้วเสร็จ 28. โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) ดำเนินการแล้วเสร็จ 29. กิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพคนกรุงเทพฯ ดำเนินการแล้วเสร็จ 30. กิจกรรมสาระสุขภาพทางสื่อสาธารณะ ดำเนินการแล้วเสร็จ 31. กิจกรรมบำรุงรักษาระบบสารสนเทศศูนย์บริการสาธารณสุข ดำเนินการแล้วเสร็จ โครงการงานประจำทั้งหมด 31 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 25 โครงการ ยกเลิก 3 โครงการ ขอขยายเวลาในารดำเนินการ 2 โครงการ โครงการกันเงินเหลี่ยมปี 1 โครงการ